นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการบริโภคภายในประเทศขณะนี้ยังคงไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควรเนื่องจากประชาชนยังประหยัดการใช้จ่ายเป็นผลจากภาระหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูการท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) ทำให้การจำหน่ายสินค้าและการบริการต่างๆลดลงโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยต้องการให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกระตุ้นการบริโภคในประเทศการลงทุนและการท่องเที่ยวเพราะ 3 ส่วนนี้จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ให้ขยายตัว“ส่งออก 5 เดือนที่ผ่านมาแม้ว่า จะติดลบ 1.22% แต่เมื่อดูในรูปของค่าเงินบาทที่ได้รับกลับโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง230,000 ล้านบาทซึ่งจีดีพีคิดจากเงินบาทส่วนนี้ จึงถือว่าไปได้ดีแล้วและไม่เห็นด้วยที่จะพยายามผลักดันส่งออกมาทดแทนการบริโภคในประเทศที่หายไปเพราะไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถาวร โดยจีดีพี ที่เติบโตแบบแข็งแกร่งต้องมองการบริโภคในประเทศการลงทุน และการท่องเที่ยวเพราะ 3 ส่วนนี้สำคัญมากต่อการพัฒนาประเทศ”อย่างไรก็ตามในระยะต่อไปจะติดตามสถานการณ์ในช่วงฤดูการท่องเที่ยวในประเทศ(ไฮด์ซีซั่น) ที่จะเริ่มช่วงก.ย.นี้ว่า จะเป็นอย่างไร เนื่องจากห้างสรรพสินค้าร้านอาหาร จะพึ่งพาการขายจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถึง 40% ดังนั้นระยะนี้หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกระตุ้นการท่องเที่ยวให้คนไทยเที่ยวได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีเช่นเดียวกับการที่กระทรวงพาณิชย์มีการจัดแคมเปญขายสินค้าราคาถูกจะทำให้สามารถเห็นสัญญาณแรงซื้อของคนไทยได้ชัดเจนขึ้นว่าแท้จริงแล้วประชาชนมีแรงซื้อมากน้อยเพียงไรหากมียอดขายที่มากอยู่ จะชี้ให้เห็นว่าอาจจะมาจากการความเชื่อมั่นได้ส่วนหนึ่งเช่นกัน ส่วนการลงทุนนั้นคาดว่าจะดีขึ้นต่อเนื่องหลังจากที่ผ่านมามีการตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บอร์ดบีโอไอ)แล้ว

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เอกชนห่วงการบริโภคภาคประชาชนซึมเหตุหนี้สินพุ่ง

Posts related