นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน)หรือทอท.เปิดเผยว่าที่ประชุมมีมติแต่งตั้งพล.อ.ท.จอมรุ่งสว่าง และนายวราห์ทองประสินธุ์ ให้เป็นกรรมการทอท.แทนนายวิศณุทรัพย์สมพล และนายธานินทร์อังสุวรังสี ที่ลาออกไปโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.57เป็นต้นไปรวมทั้งยังให้นายธงทอง จันทรางศุ และนายนิรันดร์ธีรนาทสิน เป็นคณะกรรมการชุดย่อยเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบอร์ดทอท.ทำให้สิ้นสุดจากการเป็นกรรมการอิสระ นอกจากนี้ยังยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อย5ชุดที่มีมติจากที่ประชุมบอร์ดเมื่อวันที่17มิ.ย.ทีผ่านมาและให้แต่งตั้งกรรมการชุดใหม่เข้าไปทำหน้าที่แทนมีตำแหน่งสำคัญ ประกอบด้วยให้นายนันทศักดิ์ พูลสุขเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบและประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลให้นายนิรันดร์ ธีรนาทสินเป็นประธานคณะกรรมการสรรหาให้พล.อ.อ.อารยะงามประมวญ เป็นประธานคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและเป็นประธานคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง นายประสงค์กล่าวว่าที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบให้ปรับปรุงสภาพพื้นผิวทางขับ(แท็กซี่เวย์)ของสนามบินสุวรรณภูมิขนาด7แสนตารางเมตรโดยจะปรับวัสดุการก่อสร้างการจากเดิมทำจากแอสฟัลท์(ยางมะตอย)มาใช้เป็นคอนกรีตโดยจะเป็นระยะยาวต่อเนื่อง3ปีตั้งแต่ปี 58-60วัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและทำให้พื้นผิวมีการใช้งานได้ตามมาตรฐานยิ่งขึ้น “ที่ผ่านมาสนามบินสุวรรณภูมิเปิดมา8ปีแล้วและมีการใช้งานพื้นผิวหนักมาตลอดทำให้พื้นที่ทางขับบางส่วนอาจชำรุดไปบ้างจึงต้องมีการปรับปรุงสภาพพื้นผิวที่ชำรุดให้ดีขึ้นเพราะบางแห่งเป็นหลุมเป็นบ่อบางแห่งก็มีน้ำขังอยู่ใต้พื้นผิวก็ต้องดูดน้ำออกซึ่งเรื่องพวกนี้มีความจำเป็นและใช้งบไม่มากปีละหลักร้อยล้านบาทเท่านั้น” รายงานข่าวแจ้งเพิ่มว่าสำหรับการปรับพื้นผิวสนามบินสุวรรณภูมิเป็นโครงการใหญ่ที่ใช้งบประมาณ3ปีกว่า 2,000ล้านบาทซึ่งจะมีการปรับปรุงวัสดุพื้นผิวทางขับใหม่เป็นคอนกรีตเนื่องจากพื้นผิวเดิมที่เป็นแอสฟัลท์ใช้งานหนักมา8ปี พื้นผิวหน้าจึงเริ่มร่อนประกอบกับทีมวิศวกรรมประเมินว่าหากเปลี่ยนมาใช้คอนกรีตในช่วงนี้จะคุ้มค่ากว่าแอสฟัลท์เพราะขณะนี้ราคาต้นทุนใกล้เคียงอีกทั้งยังมีอายุการใช้งานได้นานกว่า ส่วนโครงการพัฒนาสนามบินดอนเมืองระยะสอง เพื่อเพิ่มจำนวนผู้โดยสารจาก18.5ล้านคนเป็น 30ล้านคนยังมีการปรับปรุงต่อเนื่องและคาดจะเสร็จทันกำหนดเวลาช่วงเดือนต.ค.นี้ทันรับฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะมาถึงแน่นอนส่วนโครงการลงทุนใหม่ของทอท.ทั้งโครงการก่อสร้างก่อสร้างสุวรรณภูมิระยะสองวงเงิน 60,000ล้านบาทและโครงการจ้างให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้าของบริษัทอีก8,300ล้านบาทอยู่ระหว่างรอการพิจารณาของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.)จึงยังไม่สามารถดำเนินการใดๆได้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แต่งตั้งบอร์ด ทอท. ใหม่

Posts related