ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในปัจจุบันการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต และโซเชียลมีเดีย ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตคนไทยเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องการทำงาน การติดต่อรับรู้ข้อมูลข่าวสาร หรือแม้กระทั่งเป็นช่องทางสำหรับนักช้อป ในการซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์  ดร.พิชญ์พธู ไวยโชติ อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผู้เชี่ยวชาญในด้านการสร้างแบรนด์ผ่านตลาดออนไลน์ บอกในรายการเศรษฐกิจติดจอ ทางเดลินิวส์ทีวี เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ว่า การทำตลาดสินค้าผ่านระบบออนไลน์ มีความสำคัญต่อการทำการค้ายุคใหม่มากขึ้น เพราะในแต่ละปี สถิติผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยมีอัตราเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อปี 56 ที่ผ่านมา มีคนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากถึง 24 ล้านคน และยังมีโอกาสเติบโตต่อไปเรื่อย ๆ จึงเป็นตลาดขนาดใหญ่ ซึ่งภาคธุรกิจจะมองข้ามไม่ได้ เพราะตอนนี้ทั่วโลกไม่ว่าร้านค้าขนาดเล็กจนถึงบริษัทข้ามชาติ ก็สนใจเข้ามาทำตลาดออนไลน์ และทั้งหมดก็พบว่าสื่อออนไลน์ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้น ทั้งธุรกิจเริ่มต้นใหม่ หรือธุรกิจที่ใหญ่อยู่แล้วก็ช่วยให้ยอดขายเติบโตจากเดิม เนื่องจากสื่อออนไลน์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มาก ใช้งบประมาณน้อยเพียงมีคอมพิวเตอร์ และเสียค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ตอีกนิดหน่อย แถมยังสามารถเจาะตลาดสู่กลุ่มเป้าหมายได้ง่าย และคุ้มกว่าเมื่อเทียบกับการลงโฆษณาที่ราคาแสนแพง  อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาผู้ประกอบการไทยยังให้ความสำคัญกับสื่อออนไลน์ค่อนข้างน้อย โดยจากการทำโพลสำรวจพบว่า มีเพียง 65% ที่ใช้สื่อออนไลน์ช่วยสร้างแบรนด์สินค้าและทำการตลาด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าของธุรกิจคนรุ่นใหม่ กับบริษัทขนาดใหญ่ แต่ธุรกิจขนาดกลางยังปรับตัวเข้ามาใช้น้อย  สาเหตุที่ยังเข้ามาทำกันไม่เยอะ เพราะว่าไม่เข้าใจถึงความสำคัญ และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทำอย่างไร ทั้งที่จริงแล้วการใช้สื่อออนไลน์ไม่ยาก สามารถหาซื้อข้อมูลได้ตามร้านหนังสือ หรือการค้นหาผ่านอินเทอร์เน็ต ที่จะบอกวิธีการทำอย่างละเอียด รวมทั้งมีวิธีสาธิตการทำผ่านวิดีโอคลิปด้วย  ตัวอย่างเช่น เริ่มต้นจากใช้โซเชียลมีเดีย ด้วยการสมัครแฟนเพจ เฟซบุ๊กเพื่อขายสินค้า เพราะเฟซบุ๊กใช้ง่าย และในไทยใช้แพร่หลายถึง 18 ล้านคน รองลงมาก็ทำในโปรแกรมกูเกิลพลัส อินสตาแกรม ทวิตเตอร์เพื่อโปรโมต ขายสินค้า ให้กดแชร์ กดไลค์กระจายข้อมูลสินค้าให้ หรือหากลงทุนหน่อยอาจลงทุนทำเว็บไซต์สินค้าของตัวเอง หรือว่าจ้างบริษัทนอกมาทำตลาดให้ โดยแนวทางการทำก็สามารถดูได้จากเว็บไซต์ ที่ขายสินค้าใกล้เคียงกับของตัวเอง เพื่อใช้เป็นแบบอย่างการทำธุรกิจ แต่ผู้ประกอบการเองก็ต้องเรียนรู้ วิธีรับส่งสินค้า การรับโอนเงินผ่านบัญชีต่าง ๆ จากลูกค้าด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้การส่งสินค้าผ่านไปรษณีย์ไทย และการรับโอนผ่านบัญชีธนาคารทั่วไป หรือการหักผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต  “หลักสำคัญในการขายสินค้าผ่านสื่อออนไลน์ ที่จะต้องยึดมั่นไว้ คือ ต้องมีความจริงใจ ซื่อสัตย์ น่าเชื่อถือ และการใส่รายละเอียดสินค้า วิธีการใช้ที่ถูกต้อง ครบถ้วนรอบด้าน รวมถึงการระบุสถานที่ติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ให้ชัดเจน การถ่ายรูปหรือทำคลิปวิดีโอตัวสินค้า ก็ช่วยให้สินค้าขายได้ง่ายขึ้น”  ส่วนเคล็ดลับเพิ่มเติมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในหน้าเพจสินค้าที่อยากแนะนำ เช่น ควรสรรหาบทความ หรือกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการสร้างความจดจำ และสานสัมพันธ์กับลูกค้าตลอดเวลา เช่น บทความที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า การทำโปรโมชั่นเล่นเกมแจกของรางวัล การทักทายคำอวยพรในโอกาสสำคัญต่าง ๆ การเปิดช่องทางให้ลูกค้าเข้ามาฟีดแบ็กสินค้าที่ใช้ แต่หากมีคอมเมนต์ในเชิงลบ ก็ควรรีบชี้แจงและแก้ไขทันที ห้ามเพิกเฉยเด็ดขาด เพราะอาจกระทบต่อความน่าเชื่อถือในตัวสินค้าได้  ความสำคัญ ของสื่อออนไลน์ในวันนี้  ยังไม่ได้มีแค่เฉพาะการค้าขายสินค้าเฉพาะในไทยเท่านั้น ต่อไปจะมีบทบาทมากต่อการขยายตลาดไปนอกประเทศ โดยเฉพาะหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่คาดว่าแบรนด์สินค้าจากต่างประเทศ  เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ที่เชี่ยวชาญในสื่อออนไลน์ จะเข้ามาแข่งขันแย่งส่วนแบ่งตลาดในไทยเพิ่มขึ้น   ดังนั้นผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องรีบตื่นตัวรับมือ เพราะเหลืออีกไม่ถึง 2 ปีก็จะมีการเปิดเสรีอาเซียนเต็มตัวแล้ว แต่ก็ควรต้องปรับตัวเรียนรู้และเพิ่มข้อมูลด้านภาษาเข้าไปด้วย เช่น ภาษาอังกฤษ หรือภาษาพื้นเมืองในประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อสื่อสาร และโปรโมตสินค้า  สุดท้ายนี้ขอฝากว่า การทำตลาดและสร้างแบรนด์สินค้าผ่านสื่อออนไลน์ จะมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และผู้ประกอบการสามารถเรียนรู้ เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในอนาคต. ศักดิ์ชัย อินทร์จันทร์

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แนะใช้สื่อออนไลน์สร้างแบรนด์สินค้า – เออีซีกับ ม.หอการค้าไทย

Posts related