นายสุธีร์  โล้ว์โสภณกุลผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบริหารเงิน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทมีโอกาสแตะที่ระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถ้าการชุมนุมทางการเมืองของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขหรือกปปส. ในวันที่ 13 ม.ค.มีความรุนแรง เพราะจะทำให้มีเงินทุนไหลออก แต่เชื่อว่าจะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้นเนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง และที่ผ่านมานักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเคยเห็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในไทยแล้ว “ถ้าการเมืองยืดเยื้อไม่จบเหมือนอียิปต์ก็กระทบเศรษฐกิจระยะยาว โดยปัจจัยมีผลต่อค่าเงินบาทนอกจากปัญหาการเมืองในประเทศแล้วยังมาจากการดุลการค้าปีนี้จะขาดดุลต่อเนื่องหรือไม่หลังจากปี 56 ขาดดุลกว่า 20,000 ล้านบาท รวมถึงการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือคิวอีของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด   ทำให้สภาพคล่องส่วนเกินที่อยู่ในต่างประเทศไหลกลับไปยังสหรัฐอเมริกา   ซึ่งหลังจากเฟดส่งสัญญาณการลดคิวอี ลง 10,000ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน เหลือเพียง 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน พบว่า นักลงทุนต่างชาติได้ขายหุ้นและนำเงินออกไปแล้วกว่า200,000 ล้านบาท ขณะที่เงินต่างชาติที่ลงทุนในตลาดพันธบัตรเหลืออยู่ที่  700,000 ล้านบาท ดังนั้นการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศจะไม่มากไปกว่านี้แล้ว”                 สำหรับค่าเงินบาทของไทยหากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านยังอ่อนค่าในทิศทางเดียวกัน  เช่น อินเดียอ่อนค่าลง 11% ญี่ปุ่น 15% อินโดนีเซีย 19% มาเลเซียและฟิลิปปินส์เฉลี่ยอยู่ที่ 7-8%ขณะที่ไทยอยู่ที่ 8% อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การเมืองยุติโดยเร็ว การส่งออกขยายตัวดีขึ้นและการค้าของไทยเกินดุลอาจทำให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวเฉลี่ยที่ระดับ33.50-33.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  ทั้งนี้แนะนำผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้าป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบมากเกินไป       

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แบงก์ชี้การเมืองเดือดบาททะลุ34บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

Posts related