นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย  เปิดเผยว่า  ธนาคารได้ปรับลดเป้าสินเชื่อในปีนี้ลงเหลือ 4.5%  เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจปีนี้ที่คาดว่าจีดีพีเติบโตเพียง 3.3% จากเดิมที่ประเมินไว้ว่าสินเชื่อโต 7-10% จากจีดีพีอยู่ที่ 4.5%  เป็นผลมาจากการใช้จ่าย การลงทุนที่ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ  นอกจากนี้การที่ร่างพรบ.การกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทขัดรัฐธรรมนูญได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาดหุ้นและนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในประเทศ  แต่เชื่อว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานยังเดินหน้าต่อไปได้ผ่านการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีตามปกติ เพื่อไม่ให้โครงการลงทุนสะดุด   และเห็นว่าหากมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศจะทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นและขยายการลงทุนต่อเนื่อง ซึ่งเห็นว่าการส่งออกจะช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้น สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลปัจจุบันอยู่ที่ 1.49% และสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.3%     “การใช้จ่ายคงจะชะลอตัวไปถึงครึ่งปีหลัง ยกเว้นมีรัฐบาลขับเคลื่อนการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานจะทำให้การปล่อยสินเชื่อกลับคืนมาปกติ  อย่างไรก็ตาม ธนาคารพร้อมปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากลงในอีก 1-2 วันนี้ หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดดอกเบี้ยอาร์พีลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 2% ในวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา   ซึ่งมองว่าการลดดอกเบี้ยลงจะลดต้นทุนให้กับภาคเอกชน  และทดแทนการลงทุนภาครัฐได้ในระดับหนึ่ง หลังจากร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทขัดรัฐธรรมนูญ”     นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทย   กล่าวว่า ธนาคารได้ปรับลดเป้าสินเชื่อปีนี้โตเพียง  8% ขณะที่จีดีพีโต 2.9% จากเดิมที่คาดว่าสินเชื่อโตไม่ต่ำกว่า 10%  และจีดีพีโตประมาณ  3-4%  เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว  รวมทั้งร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านที่ตกไปทำให้การบริโภคและการผลิตชะลอตัวลง แต่หวังว่าส่งออกจะเป็นแรงสนับสนุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยปีนี้ส่งออกโตประมาณ  5%   อย่างไรก็ตาม  ธนาคารอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับสภาพคล่องของธนาคารด้วย   ส่วนถานการณ์ทางการเมืองไม่ได้ส่งผลกระทบต่อหนี้เสียเพิ่ม

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แบงก์ดาหน้าหั่นเป้าสินเชื่อ

Posts related