นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/2557  บริษัทมีรายได้รวมจากการขายและการให้บริการ 2,374 ล้านบาท กำไรสุทธิ 399 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้น 21% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยรายได้หลักมาจากสายธุรกิจดาวเทียม คิดเป็น 88% ของรายได้รวมทั้งหมด    ทั้งนี้บริษัท มีผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 1 ที่ปรับตัวสูงขึ้น จากการเริ่มรับรู้รายได้ของดาวเทียมไทยคม 6 รวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากบริการไอพีสตาร์ในออสเตรเลียและญี่ปุ่น  สำหรับต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ส่งดาวเทียมไทยคม 6 ขึ้นสู่วงโคจร ส่งมอบให้เป็นทรัพย์สินของรัฐบาลไทย และเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบแล้ว  ขณะนี้มีปริมาณการใช้ช่องสัญญาณบนดาวเทียมไทยคม 6 แล้วถึง 68% ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังสามารถเริ่มให้บริการรองรับกฎ Must Carry เพื่อให้ประชาชนสามารถรับชมช่องทีวีดิจิตอลได้ทั่วประเทศทันที นอกจากนี้ เพื่อรองรับการเติบโตต่อเนื่องของการใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทฯ จะส่งดาวเทียมไทยคม 7 ขึ้นสู่วงโคจรเพิ่มเติมในกลางปี 2557 นี้ และได้เริ่มดำเนินโครงการดาวเที่ยมไทยคม 8 ซึ่งมีแผนจะนำขึ้นให้บริการในวงโคจรในครึ่งแรกของปี 2559 อีกดวงหนึ่ง ในส่วนของธุรกิจบรอดแบนด์ บริษัทฯ ยังคงรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากการให้บริการไอพีสตาร์ทั้งในตลาดไทยและต่างประเทศ และบริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมร่วมกับพันธมิตรเพื่อให้บริการครบวงจร  โดยในไตรมาสสองนี้ บริษัทฯได้ร่วมมือกับ บมจ.อสมท. ในการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่ “MCONNECT” (MCOT Second Screen Application) ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ในการรับชมรายการโทรทัศน์รูปแบบใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย ให้ผู้ชมติดต่อกับผู้ผลิตรายการเพื่อจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมของรายการนั้นๆ หรือ แชทกับเพื่อนได้ระหว่างชมรายการ และยังช่วยเพิ่มการติดตามของผู้ชม และ เรตติ้งของรายการในเวลาเดียวกันด้วย  “ด้วยโครงการดาวเทียมไทยคม 6 ไทยคม 7 และไทยคม 8 บริษัทฯ มีความพร้อมในด้านปริมาณช่องสัญญาณดาวเทียมสำหรับการขยายธุรกิจทั้งในตลาดไทยและต่างประเทศ ทั้งในเอเชียและแอฟริกาเพื่อการเติบโตในระยะยาวต่อไป  ด้วยช่องสัญญาณที่มีเพิ่มเติม ทำให้บริษัทฯ มีช่องสัญญาณดาวเทียมเพียงพอต่อการรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมบรอดคาสต์ในช่วงแห่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีโทรทัศน์ความคมชัดสูง  และเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับระบบ “อัลตร้า เอชดี” ในอนาคต  นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นที่จะพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและบริการในลักษณะ ครบวงจร เพื่อช่วยสร้างคุณค่าเพิ่มแก่ลูกค้า อีกด้วย” นางศุภจีกล่าว อย่างไรก็ดีในส่วนของกลุ่มบริษัทในเครือนั้น บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) ซึ่งให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตและสื่อ ยังคงมีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจการให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านสายวงจรเช่า การให้บริการศูนย์ข้อมูลอินเตอร์เน็ต  และการให้บริการไอซีที และในส่วนของ บริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ในประเทศลาวนั้น มีการให้บริการอย่างต่อเนื่องแก่ผู้ใช้บริการและตัวแทนจำหน่าย โดยเฉพาะผู้ใช้บริการโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ไร้สาย  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ไทยคมเตรียมส่งไทยคม 7 และ 8 รองรับทีวีไทย

Posts related