วันนี้ (8 ก.ค.) ที่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด (ปณท) แจ้งวัฒนะ นางสาวสุชาดา พุทธรักษา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด ปณท กล่าวว่า จากกรณีที่มีการแชร์ “ไอโฟน กลายเป็นหิน” ทางโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 5 ก.ค.57 โดยผู้เสียหายโพสต์ภาพการได้รับสิ่งของที่ภายในบรรจุเป็นก้อนหินและเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย ปณท ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทั้งนี้ อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลตั้งแต่กระบวนการฝากส่งต้นทางจนถึงขั้นตอนการนำจ่ายถึงมือผู้รับปลายทางอย่างละเอียดซึ่งจะใช้เวลาในการดำเนินการ 5–7 วันอย่างไรก็ตาม ปณท ได้ตรวจสอบการวัดน้ำหนักต้นทางปลายทางถ้าพบวัตถุที่มีความคลาดเคลื่อนระหว่างน้ำหนักต้นทางและปลายทาง รวมถึงในกรณีที่การส่งพัสดุมีความบกพร่อง เสียหาย ปณท มีนโยบายชดใช้ค่าเสียหายซึ่งเป็นรูปแบบการให้บริการที่เป็นมาตรฐานสากล โดยผู้ใช้บริการที่ส่งสินค้ามีมูลค่าสูงสามารถพิจารณาใช้บริการประกันการส่งสินค้าที่วงเงินชดเชยสูงสุดถึง 50,000 บาททั้งนี้ เบื้องต้น ปณท ได้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,043 บาท แบ่งเป็นเงื่อนไขการส่งแบบ EMS จำนวน 2 พันบาท และ 43 บาท เป็นค่านำส่ง ให้กับผู้เสียหายแล้ว"การส่งสิ่งของดังกล่าว ผู้ส่งใช้เพียงซองใส่จดหมายขนาด C5 ซึ่งไม่เหมาะกับการใส่ไอโฟนหรือสิ่งของมีค่าใดๆทั้งสิ้น ดังนั้น ปณท จึงอยากให้ผู้ส่งระมัดระวังในการส่งสิ่งของทุกครั้งและขอคำแนะนำจากพนักงานไปรษณีย์ ซึ่งไปรษณีย์อนุญาต (ปณอ.) รังสิต (ต้นทาง) ยืนยันว่าไม่ทราบว่าข้างในเป็นอะไร และกว่าที่สินค้าจะถึงปลายทางคือ ปณอ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จะผ่านที่ทำการปณท หลายจุด ซึ่งทั้งต้นทางและปลายทางเป็น ปณอ.ทั้งนี้ หากพบว่าความผิดเกิดจากปณทและปณอ.เอง ทางปณท ยินดีชดใช้ค่าเสียหายตามจำนวนสินค้า" นางสุชาดา กล่าวทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเป็นการส่ง EMS โทรศัพท์มือถือไอโฟนและกลับได้เป็นก้อนหิน จากนางสาวปิยนุช เสนามิตร โดยระบุว่าพี่สาวเป็นผู้ฝากส่ง EMS ดังกล่าวที่ ปณอ.รังสิต 101 มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2557 และได้รับ EMS ปณอ.ฉวางวันที่ 5 ก.ค.57

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ไปรษณีย์ไทย แจง กรณีส่งไอโฟนกลายเป็นหิน

Posts related