กฟผ.ทุ่มงบกว่า 12,100 ล้านบาท ขยายระบบไฟฟ้ารับเศรษฐกิจกทม.-ปริมณฑลขยายตัว รวมถึงรองรับโครงการรถไฟฟ้าสารพัดสายและรับมือหากพม่าปิดซ่อมท่อส่งก๊าซธรรมชาติ
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบโครงการขยายระบบไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ระยะที่ 3 วงเงินรวม 12,100 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอเพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น และแก้ปัญหาด้านการปฎิบัติการระบบไฟฟ้ากรณีเกิดขัดข้องของท่อก๊าซธรรมชาติจากประเทศพม่า จนทำให้โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติฝั่งตะวันตกและกรุงเทพฯ หยุดการผลิตไฟฟ้า จึงต้องปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าเพื่อสนองความต้องการไฟฟ้า และรักษาระดับความมั่นคงเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้าให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทั้งนี้วงเงินทั้งหมดจะดำเนินการใน 8 โครงการ ทั้งการยกระดับแรงดันสายส่งให้มีระดับแรงดันมากขึ้นเป็น 500 เควี ก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูง ติดตั้งหม้อแปลงเพิ่มเติมตามสถานีไฟฟ้าแรงสูงต่างๆ ติดตั้งตัวเก็บประจุไฟฟ้าแบบขนานตามสถานีไฟฟ้าแรงสูงต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดจะแล้วเสร็จในเดือนส.ค. 61 ใช้เวลาดำเนินการ 5 ปี 5 เดือน มีผลตอบแทนด้านเศรษฐศาสตร์ 35.32% มีผลตอบแทนด้านการเงิน 16.51% และมีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐศาสตร์ 10,021.8 ล้านบาท นอกจากนี้ กระทรวงพลังงาน ได้รายงานเพิ่มเติมว่า เนื่องจากกรุงเทพฯและปริมณฑล ต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสูงมาก เพราะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ และไม่สามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ได้ จึงต้องใช้วิธีการยกระดับแรงดันและขยายขนาดสายส่งไฟฟ้า รวมทั้งติดหม้อแปลงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังต้องดำเนินการเพื่อรองรับโครงการรถไฟฟ้าต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย อย่างไรก็ตามสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เห้นว่า กฟผ.จำเป็นต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบขั้นตอนการดำเนินงานให้ชัดเจนด้วย เพื่อป้องกันการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันกฟผ.ต้องทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วยเพราะมีการลงทุนซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศ รวมทั้งต้องวิเคราะห์และจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับระบบพลังงานไฟฟ้าของประเทศด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ไฟเขียวกฟผ.ขยายระบบไฟฟ้าเฟส 3

Posts related