นายอารีพงษ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน เป็นประธาน ว่า ที่ประชุม กบง. มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้นราคาขายปลีกแอลพีจี ภาคขนส่ง และราคาก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรักษาความคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีผลวันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไปโดยราคาก๊าซแอลพีจี ภาคขนส่ง ปรับขึ้น 0.62 บาทต่อกิโลกรัม จาก 21.38 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 22.00 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลจะปรับขึ้น 1 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิม 10.50 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 11.50 บาทต่อกิโลกรัม และให้คงราคาขายปลีกเอ็นจีวี สำหรับรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ รถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) รวมทั้งรถร่วมบขส. และรถร่วม ขสมก. ไว้ที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัมเช่นเดิม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนส่วนใหญ่การปรับราคาเอ็นจีวี และแอลพีจีครั้งนี้ จะช่วยให้ราคาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงมากขึ้น และลดการอุดหนุนราคาเอ็นจีวี จากบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เพื่อนำรายได้ไปขยายสถานีบริการเอ็นจีวี รวมถึงขยายท่อส่งก๊าซเพื่อให้บริการทั่วถึงทุกภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีสถานีบริการเอ็นจีวี 497 สถานีทั่วประเทศเบื้องต้นจะเร่งดำเนินร่วมกับทางสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ขยายสถานีบริการในพื้นที่ภาคกลาง และภาคอีสาน และจะขยายเพิ่มเติมในภาคอื่น ๆ ต่อไป เพื่อที่จะรองรับกับจำนวนรถที่ใช้ เอ็นจีวี ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่มากกว่า 450,000 คันนอกจากนี้ ที่ประชุม กบง. เห็นชอบปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร จากเดิมจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับดีเซล 1.70 บาทต่อลิตร ปรับเป็นจัดเก็บ 2.10 บาทต่อลิตร โดยไม่มีผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลแต่อย่างใด

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ไฟเขียวขึ้นราคา LPG 62 สต. NGV 1 บาท

Posts related