นายรชฏ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจและการตลาดวินโดวส์ และ เซอร์เฟซ บริษัท ไมโครซอฟท์ ( ประเทศไทย )  ได้แนะนำผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั้งผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจในประเทศไทย  ให้หันมาดูแลอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ห่างไกลไวรัสและมัลแวร์ที่เป็นอันตราย ด้วยการอัพเกรดซอฟต์แวร์ให้ทันสมัย ก่อนที่ ไมโครซอฟท์ จะยุติการสนับสนุนระบบปฏิบัติการวินโดวส์เอ็กซพี  และโปรแกรมออฟฟิศ 2003  ในวันที่ 8 เมษายน  2557 ที่จะถึงนี้ ขณะนี้ เหลือระยะเวลาอีกเพียงไม่ถึง 2 เดือน  ซึ่งไมโครซอฟท์จะยุติการสนับสนุนระบบปฏิบัติการวินโดวส์เอ็กซพี และโปรแกรมออฟฟิศ 2003   จากข้อมูลของไมโครซอฟท์ ยังพบว่า 1 ใน 4 ของคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานในประเทศไทย ยังใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เอ็กซพี    ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่มีอายุถึง 11 ปีแล้ว  ไม่มีความสามารถรับมือกับการโจมตีที่ซับซ้อนผ่านระบบไซเบอร์ได้ รวมทั้งยังไม่สนองตอบต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทั้งในแง่การปกป้องข้อมูลส่วนตัว และการเพิ่มประสิทธิผลอีกด้วย โดยตั้งแต่ วันที่ 8 เมษายน 2557 เป็นต้นไป ไมโครซอฟท์จะยุติการอัพเดทระบบรักษาความปลอดภัย การซ่อมแซมระบบที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย หยุดให้บริการด้านเทคนิคทางโทรศัพท์ และจะไม่มีการอัพเดทข้อมูลด้านเทคนิคผ่านระบบออนไลน์สำหรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์เอ็กซพี  อีกต่อไป  ดังนั้น ผู้ใช้จะไม่ได้รับการอัพเดทต่างๆ ที่จะสามารถช่วยปกป้องคอมพิวเตอร์จากไวรัสอันตราย สปายแวร์ และซอฟต์แวร์ประสงค์ร้ายอื่นๆ และผลที่ตามมาก็คือระบบอาจหยุดทำงานหรือปัญหาซอฟต์แวร์ที่ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ไมโครซอฟท์ ได้แนะนำให้ภาคธุรกิจและผู้บริโภคที่ยังใช้คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์เอ็กซพี อัพเกรดไปเป็นระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 หรือวินโดวส์ 8   รายงานจากไมโครซอฟท์ ซีเคียวริตี้ อินเทลลิเจน  รีพอร์ต   ( Microsoft’s Security Intelligence Report ) ฉบับที่ 14  เผยแพร่เมื่อเดือนเมษายน 2556   ที่ผ่านมา ระบุว่า วินโดวส์เอ็กซพี ที่ติดตั้ง  Service Pack 3 มีความเสี่ยงมากกว่า วินโดวส์ 8.1    ถึง 56.5 เท่า

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ไมโครซอฟท์ชวนอัพเกรดซอฟต์แวร์ย้ำเลิกอัพเดทวินโดว์สเอ็กซพี 8 เม.ย.นี้

Posts related