ถือว่าเป็นกลุ่มสตาร์ตอัพ หรือผู้ประกอบการไอทีหน้าใหม่ของไทยที่ประสบความสำเร็จรายล่าสุด เมื่อสามารถระดมทุนจากกลุ่มนักลงทุนจากต่างประเทศเพื่อนำมาขยายธุรกิจโดยมีเป้าหมายความสำเร็จก้าวสู่ระดับโลกในอนาคตข้างหน้า หลังสามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นถามครู(Taamkru) จนสามารถคว้ารางวัลในเวทีสตาร์ต อัพทั้งในและต่างประเทศ โดยล่าสุดไปได้รับรางวัลชนะเลิศ Most Promising Startup Award ในงาน Echelon 2014 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยแอพพลิเคชั่นถามครู ถูกต่อยอดมาจากเว็บไซต์ถามครู ถือเป็นแอพพลิเคชั่นด้านการศึกษา ที่เป็นคลังข้อสอบสำหรับเด็กอนุบาลที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ปกครองที่ต้องการเนื้อหาทางด้านการศึกษาในรูปแบบดิจิตอล ที่สามารถติดตามประเมินผลพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็ก และยังสามารถเทียบระดับความสามารถของลูกตนเองกับเด็กอนุบาลในวัยเดียวกันได้ นายวิชานน์ มานะวาณิชเจริญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาร์เทอเร็กซ์ จำกัด ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นถามครูกล่าวว่า ทางทีมได้รับเงินลงทุนจำนวน 20 ล้านบาท จากกลุ่มนักลงทุนจากต่างประเทศ ประกอบด้วย 500 startups , M&S Partners , IMJ investment Partners, Ookbee และ Red Dot Ventures ซึ่งเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อนำแอพพลิเคชั่นถามครู ซึ่งเป็นคลังข้อสอบสำหรับเด็กอนุบาลไปทำตลาดในต่างประเทศ และรองรับการขยายงานให้สามารถเดินหน้าธุรกิจได้เต็มที่ “หลังจากที่ไปได้รางวัลจากประเทศสิงคโปร์มา นักลงทุนมองถึงโอกาสทางธุรกิจว่าจะสามารถประสบความสำเร็จได้ จึงได้เข้ามาร่วมลงทุน โดยจะมีแผนนำแอพถามครูเข้าไปทำตลาดในอาเซียน อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซียและเวียดนาม โดยเฉพาะในสิงคโปร์ที่ถามครูเคยขึ้นอันดับ 1 แอพสโตร์ในหมวดเด็ก และการศึกษามาแล้ว เนื่องจากหลังชนะเลิศที่สิงคโปร์ก็ช่วยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ยังจะเอาเงินทุนเพื่อไปขยายทีมงานเพื่อพัฒนาคอนเทนต์ข้อสอบให้เพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่ทีมงานทั้งหมด 7 คน ซึ่งจะเพิ่มทีมงานทั้งในส่วนของโปรแกรมเมอร์ทีมการตลาด เพื่อรุกตลาดอย่างเต็มที่” นายวิชานน์ กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันแอพพลิเคชั่นถามครูมียอดดาวน์โหลดแล้วมากกว่า 1.2 แสนครั้ง ทั้งในระบบปฏิบัติการ ไอโอเอสและแอนดรอยด์ 90% เป็นการดาวน์โหลดในไทย หลังเริ่มเปิดให้ดาวน์โหลดเมื่อช่วงต้นปีนี้ ภายในแอพพลิเคชั่นมีข้อสอบหลักแสนข้อและมีการพัฒนาข้อสอบใหม่ ๆมากกว่าวันละ 100 ข้อ ถือว่าเป็นคลังข้อสอบสำหรับเด็กอนุบาลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และได้ตั้งเป้าหมายว่าเมื่อถึงสิ้นปีจะมีข้อสอบมากกว่า 1 ล้านข้อ หรือเป็นคลังข้อสอบอนุบาลที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตามสำหรับโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาดโลกนั้น นายวิชานน์ มองว่า เรื่องการศึกษาถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือต่างประเทศยินดีที่จ่ายเพื่อให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด ซึ่งแบบฝึกหัดที่เป็นสมุดหนังสือเล่มหนึ่งก็ราคาไม่ต่ำกว่า 50 บาท แล้วไม่สามารถทำซ้ำได้ ขณะที่แอพพลิเคชั่นมีแบบฝึกหัดให้ทำฟรีจำนวนหนึ่ง และสามารถจ่ายซื้อเพิ่มถ้าต้องการและสามารถทำซ้ำได้ และมีข้อสอบปรับเปลี่ยนใหม่ทุกวัน จึงไม่มีเหตุผลที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะปฏิเสธ “จุดเด่นของแอพพลิเคชั่นนี้ คือ มีข้อสอบ 4 ด้าน คือ วัดไอคิว คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาตร์ ทางทีมกำลังวางแผนโมเดลธุรกิจและการหารายได้ เบื้องต้นจะมีทั้งการขายตรงกับพ่อแม่ผู้ปกครอง โรงเรียน การจัดการแข่งขันทำข้อสอบวัดคะแนนระหว่างโรงเรียนทั่วประเทศ ทำแคมเปญซื้อข้อสอบเพิ่มในราคาถูกเป็นแพ็กเกจต่อ 1 หมวดวิชา รวมถึงการจัดของรางวัลเป็นของเล่นต่าง ๆ เมื่อเอาคะแนนสะสมที่ได้จากการเข้ามาทำแบบทดสอบเป็นประจำมาแลกรางวัล เพื่อดึงให้เด็กเข้ามาทำข้อสอบและใช้งานแอพพลิเคชั่นอย่างต่อเนื่อง” นายวิชานน์ กล่าวต่อว่า ทางทีมยังได้คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ผู้อำนวยการร่วมโครงการผู้สร้างเครือข่ายสตาร์ตอัพประเทศไทยหรือ Founders Institute Thailand เข้ามาเป็นที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะสามารถช่วยเสริมในการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองจากทั่วโลกเข้ามาดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นถามครูได้มากขึ้น และเมื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วภายใน 3 เดือน เชื่อว่าจะสามารถเริ่มมีรายได้เข้ามาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามการระดมทุน หรือหาแหล่งเงินทุนจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพ่ือนำไปขยายธุรกิจให้อยู่ได้และมีการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นรูปแบบปกติของสตาร์ตอัพ ด้านเจ้าของกลุ่มทุนที่เข้ามาร่วมลงทุนร่วมกันบอกว่า ถามครู ถือเป็นแอพพลิเคชั่นด้านการศึกษาที่มีศักยภาพที่มีโอกาสประสบความสำเร็จได้มาก เนื่องจากพ่อแม่ผู้ปกครองในเอเชียส่วนใหญ่จะสนับสนุนและลงทุนด้านการศึกษาให้กับลูก ๆ ถึงแม้ว่าบางคนจะไม่มีเงินก็พยายามไปหามาให้ลูก ๆ ได้เรียนกัน จึงเป็นช่องทางและตลาดที่กว้างมากที่แอพพลิเคชั่นจะได้รับความนิยมโดยเฉพาะตลาดในเอเชียหากมีการปรับเนื้อหาและข้อมูลต่าง ๆ ให้เข้ากับท้องถิ่นหรือประเทศนั้น ๆ นับเป็นก้าวแรกที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก สำหรับ “ถามครู” กลุ่มสตาร์ตอัพสัญชาติไทย ที่ดึงความสนใจของกลุ่มทุนจากต่างชาติได้ ต้องติดตามก้าวต่อไปกับเป้าหมายคลังข้อสอบอนุบาลที่ใหญ่ที่สุดในโลก!!. จิราวัฒน์ จารุพันธ์ JirawatJ@dailynews.co.th
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘ถามครู’ สตาร์ตอัพคนไทยพร้อมลุยตลาดโลก – ฉลาดสุดๆ
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs
![](https://w2help.com/horoscope/resources/img/bar/leftbar3.png)
![](https://w2help.com/horoscope/resources/img/bar/leftbar2.png)
![](https://w2help.com/horoscope/resources/img/bar/leftbar4.png)