พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งในที่ประชุม ครม. ให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณเริ่มตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีงบ ประมาณ 58 ควบคู่ไปกับการจัดทำแผนปฏิบัติการของทุกหน่วยงาน โดยให้เน้นโครงการลงทุนตั้งแต่โครงการขนาดเล็ก ที่สามารถดำเนินการได้ทันที รวมถึงโครงการขนาดใหญ่ที่สามารถผูกพันงบประมาณ เพื่อให้มีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และทำให้เศรษฐกิจช่วงปลายปีโตได้ตามแผนที่ตั้งไว้“ตามแผนปฏิบัติงานที่ทุกหน่วยงานต้องไปทำ มีละเอียดทั้งแผนใหญ่ และแผนย่อย โดยในแผนเร่งด่วน จะให้ความสำคัญกับการเร่งรัดลงทุนโครงการขนาดเล็ก ที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจในระดับชุมชนก่อน เพราะช่วง 3 เดือนนี้ ความสำคัญของการใช้จ่ายงบประมาณ จะเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่นายกฯมอบนโยบายไว้”สำหรับแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณปี58ที่สำนักงบประมาณเสนอ มีสาระสำคัญคือให้หน่วยงานราชการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณตั้งแต่ไตรมาสที่1ของปีงบประมาณ58โดยมีวงเงินเบิกจ่ายงบประมาณในไตรมาสที่1(ต.ค.–ธ.ค.) รวม1.1ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ791,443.27ล้านบาท รายจ่ายลงทุน149,146ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่ง มาจากวงเงินลงทุน เหลือจ่ายจากงบประมาณ57 แต่ยังไม่ได้มีการผูกพันงบประมาณวงเงิน160,000ล้าน บาท ซึ่ง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวในที่ประชุมฯ ครม.ว่าการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณในส่วนนี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตร มาสสุดท้ายของปี57ได้อย่างมากทั้งนี้ที่ประชุมครม.ยังเห็นชอบรายงานแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี 58 วงเงิน 2.575 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังได้เสนอแนวทางเร่งรัด และกำกับดูแลการบริหารงบประมาณ โดยให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับดูแลให้หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ และผู้ว่าราชการจังหวัด ติดตามและกำกับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ รวมทั้งรายงานผลเป็นรายเดือนให้สำนักงบฯ เพื่อใช้ติดตามความก้าวหน้าของการปฏิบัติงาน ก่อนเสนอครม. เป็นรายไตรมาสต่อไปอย่างไรก็ตามหากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ จำเป็นต้องปรับแผนงานให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 และ นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ก็ให้เสนอรัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาเห็นชอบ จากนั้นจึงส่งให้สำนักงบฯ เห็นชอบการปรับแผน นอกจากนี้ยังให้แต่ละหน่วยงานนำแผนดังกล่าว ที่สำนักงบฯ เห็นชอบไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำแผนการปฏิบัติราชการประจำปีของแต่ละ หน่วยงาน
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “บิ๊กตู่”จี้เร่งเบิกจ่ายงบลงทุน
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs