นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร.ได้ส่งหนังสือแจ้งรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เพื่อขอความร่วมมือในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 57 เพื่อเป็นการเร่งอัดฉีดวงเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ สอดคล้องกับนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รวมถึงโครงการที่กำลังจัดซื้อจัดจ้างได้ขอให้รัฐวิสาหกิจเร่งและดำเนินการด้วยความโปร่งใส เนื่องจากช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจหลายแห่งที่ยังไม่สามารถดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา สคร.ได้จัดประชุมเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนร่วมกับรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่และมีผลการเบิกจ่ายไม่เป็นไปตามเป้าหมายมาหารือ โดยมีรัฐวิสาหกิจเข้าร่วมทั้งสิ้น 7 แห่ง ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รฟม.), บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.), โรงงานยาสูบ (รยส.) , บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย, องค์การเภสัชกรรม และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) อย่างไรก็ตาม รัฐวิสาหกิจทั้ง 7 แห่ง มีสัดส่วนงบลงทุนคิดเป็น 55% ของงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด ซึ่งจะสามารถผลักดันให้เกิดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปีงบประมาณ 57 ส่วนรัฐวิสาหกิจที่เหลืออีก 39 แห่ง สคร. ยังคงให้ความสำคัญและคาดหวังให้การเบิกจ่ายงบลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายเช่นกัน โดยผลการเบิกจ่ายงบลงทุนรอบ 9 เดือนสำหรับรัฐวิสาหกิจ ปีงบประมาณ 57 สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม 107,071 ล้านบาท คิดเป็น 65.8% ของแผนเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม นอกจากนี้ สคร. ได้ดำเนินการตามประกาศ คสช. โดยกำหนดหลักเกณฑ์การส่งข้อมูลเพื่อให้รัฐวิสาหกิจรายงาน พร้อมทั้งได้แจ้งเวียนให้รัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติแล้ว ประกอบด้วย การลงทุนหรือริเริ่มโครงการใหม่ที่มีวงเงินเกิน 100 ล้านบาท เมื่อโครงการดังกล่าวผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ควบคู่กับการขออนุมัติการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (หากต้องขออนุมัติ) และการทำธุรกรรมที่มีวงเงินเกิน 100 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่การดำเนินกิจการทั่วไปหรือเพื่อการดำเนินการตามปกติของรัฐวิสาหกิจซึ่งทำให้ได้มาซึ่งสินค้าและบริการตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจเมื่อผู้มีอำนาจอนุมัติการทำธุรกรรมนั้นๆ พิจารณาอนุมัติแล้ว ภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไปโดยให้เริ่มรายงานข้อมูลตั้งแต่เดือนก.ค.57
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs