น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยนแอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า แนะนำให้นักลงทุนจับตาสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ที่จะเป็นปัจจัยหลักกดดัน ให้ราคาทองคำในตลาดโลกระยะสั้น ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุดธนาคารกลางของรัสเซีย ได้ซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอีก 15 ตันในช่วง 1เดือนที่ผ่านมา หากสถานการณ์ในตะวันออกกลางกลับมารุนแรงขึ้น ราคาทองมีโอกาสจะแตะ 1,330-1,350ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาทองคำปรับลดลงถึง 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ก็เชื่อว่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาลงทุน โดยกรอบการเคลื่อนไหวในปีนี้ ยังมองไว้ที่ 1,200-1,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่งให้ราคาทองในประเทศอยู่ที่บาทละ 19,300-19,900 บาท ส่วนแนวโน้มราคาทองคำในปีหน้า คาดว่าราคาทองคำจะอยู่ในช่วงของการปรับขาลง เนื่องจากทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเชื่อว่าราคาทองคำจะไม่ต่ำกว่า1,100ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ด้านนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ และประธานบริษัทห้างขายทองจินฮั้วเฮง กล่าวว่า ราคาทองคำในช่วงที่เหลือของปีนี้จะผันผวนมากกว่าช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยที่เข้ามากระทบยังมีความไม่แน่นอน ทั้งความกังวลต่อเหตุการณ์รุนแรงเพิ่มขึ้น ในฉนวนกาซา และความตึงเครียดในยูเครน รวมทั้งนโยบายการเงินของสหรัฐ เรื่องการลดขนาดมาตรการผ่อนปรนเชิงปริมาณ (คิวอี) และแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ ซึ่งทำให้ราคาทองคำผันผวนอยู่ในกรอบ 1,170-1,450 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์หรือที่ 18,500-21,000 บาทโดยล่าสุด ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) ได้ร่วมกับ7บริษัทผู้ค้าทองประกอบด้วย บริษัท โกลเบล็กโฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทคลาสสิก โกลด์ จำกัด บริษัทจีทีโกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด บริษัทวายแอลจี โกล์ด จำกัด บริษัทออสสิริส จำกัด บริษัท เอ็มทีเอสโกล์ด จำกัด บริษัท ฮั่วเซ่งเฮงคอมโมดิทัช จำกัด ได้เปิดให้บริการแลกทองคำ สำหรับผู้ซื้อขายโกล์ดฟิวเจอร์ โดยเงื่อนไขต้องเป็นทองคำแท่งบริสุทธิ์ 96.5% น้ำหนักทองคำขั้นต่ำที่แลกซื้อขายคือราคา 10บาท และต้องเป็นยี่ห้อของร้านทอง ที่เข้าร่วมโครงการและต้องวางเงินประกัน ขั้นต่ำ 30,000 บาทและ สูงสุด 150,000 บาท สำหรับทองคำน้ำหนัก 50 บาท และต้องแลกซื้อภายใน 2 วันทำการ ถัดจากวันซื้อขายวันสุดท้ายของโกลด์ฟิวเจอร์ ที่ครบอายุในเดือนที่สาขาร้านทองที่กำหนด
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : จับตาสงครามดันราคาทองพุ่งระยะสั้น
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs