นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปี 57 ลงเหลือ 2% หรืออยู่ในกรอบ 1.5-2.5% ซึ่งลดจากประมาณการณ์เดิมที่คาดไว้ว่าจะขยายตัวที่ 2.6% โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาทางการเมืองที่ยืดเยื้อได้ส่งผลกระทบต่อระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ทำให้อัตราการเจริญเติบโตไตรมาสแรกของปีหดตัวมากกว่าคาดไว้ที่ -0.6% และปรับลดมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งปีคาดว่าจะขยายตัวที่ 1.5 หรืออยู่ในกรอบ 0.5-2.5 จากเดิมที่ประมาณการณ์ที่ 5% เนื่องจากมูลค่าการส่งออกสินค้าในครึ่งปีแรกจะลดลงต่ำกว่าที่คาดไว้ทั้งนี้ การปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ที่ขยายตัวได้ 0.2% ส่งผลครึ่งปีแรก เศรษฐกิจจะขยายตัวติดลบ 0.4% เนื่องจากผลกระทบจากปัญหาการเมือง ทำให้ความเชื่อมั่นในการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวลง การเบิกจ่ายของภาครัฐหยุดชะงัก แต่หลังสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายดีขึ้น การส่งออกเริ่มกลับมา โดย สศค.คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถฟื้นตัวได้ในครึ่งปีขยายตัวได้ 4.3% รวมทั้ง การบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวได้ 0.3% การบริโภคภาครัฐ ขยายตัวได้ 4.6% การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวติดลบ 3.5% การลงทุนภาครัฐ ขยายตัว 4% ส่วนการนำเข้าขยายตัวติดลบ 5.2% อัตราเงินเฟ้อ อยู่ที่ระดับ 2.4% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.5% ส่วนอัตราการว่างงาน อยู่ที่ 0.9%“ช่วงครึ่งปีหลังคาดว่า ทิศทางที่ชัดเจนขึ้นของสถานการณ์ทางการเมืองจะส่งสัญญาณที่ดีต่อระดับ ความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุนตามนโยบายเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและมาตรการที่ให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน รวมทั้ง นโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐรวมทั้งการเร่งรัดการใช้จ่ายภายใต้แผนการลงทุนภาครัฐที่แต่เดิมมีแนวโน้มล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด รวมถึงการเร่งกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 58 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้อุปสงค์ภายในประเทศขยายตัวได้ต่อเนื่อง”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ทุบจีดีพีเหลือ 2% หั่นส่งออกเหลือ 1.5%

Posts related