นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)และรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาคเอกชนอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมด้านแรงงาน ทั้งที่เป็นระดับฝีมือ และแรงงานค่าจ้างขั้นต่ำ 500,000 คน เพื่อรองรับการขยายลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 2.4 ล้านล้านบาท รวมถึงการขยายกิจการ หรือลงทุนใหม่ของนักลงทุนของเอกชน และรัฐวิสาหกิจ ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่คาดว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ โครงการก่อสร้างที่ทำสัญญากับรัฐ มีความต้องการใช้แรงงานเป็นพิเศษ หากไม่เร่งดำเนินการ ประเทศไทยจะเกิดปัญหาวิกฤตขาดแคลนแรงงานทั้งนี้ต้องการให้รัฐบาลปฎิรูประบบการศึกษา เพื่อให้เด็กใหม่ที่จบออกมา สอดคล้องกับความต้องการของภาคธุรกิจ พร้อมทั้งให้ภาครัฐ และเอกชนร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพผู้ที่กำลังศึกษาให้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเด็กนักเรียน และผู้ปกครอง จะให้ความสำคัญในการเรียนระดับอุดมศึกษามากกว่าสาขาที่เป็นวิชาชีพ เมื่อจบการศึกษาส่วนใหญ่ จะไม่ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการขณะเดียวกัน ในส่วนของภาคเอกชน ก็มีการเตรียมการเรื่องดังกล่าวล่วงหน้าแล้วหลายปี ในการร่วมมือกับสถาบันศึกษาในการพัฒนานักศึกษา ให้เข้ามาเรียนรู้การทำงานจริงในโรงงาน แต่เมื่อมีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ จึงมีความจำเป็นในการเร่งพัฒนา และสรรหาแรงงานให้เพียงพอ ไม่ใช่นั้นในอนาคตโรงงานรายใหญ่ หรือทุนต่างชาติ จะแย่งแรงงานฝีมือจากธุรกิจเอสเอ็มอี โดยการจูงใจให้ค่าตอบแทนที่สูง

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เอกชนเตรียมแรงงาน 5 แสนรับโครงการ 2.4 ล้านล้าน

Posts related