นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุโจรกรรมโทรศัพท์มือถือของผู้โดยสารบนขบวนรถด่วนที่37 (กรุงเทพ–สุไหงโก-ลก) รถนั่ง และนอนปรับอากาศคันที่ 10 ซึ่งในขบวนเดียวกัน มีการพ่วงเลดี้โบกี้แล้ว โดยแนวทางป้องกันระยะเร่งด่วน จะเพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ โดยเฉพาะบนขบวนรถตู้นอน และให้เดินยามทุกชั่วโมง ตลอดจนพิจารณาจุดที่เป็นช่องโหว่ต่าง ๆ ระยะต่อไปจะพิจารณาติดตั้งกล้องวงจรปิดเบื้องต้น ได้ประสานงานผู้บังคับการตำรวจรถไฟจัดส่งรายชื่อและเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของพนักงานและผู้โดยสารทุกคนบนขบวนรถ เพื่อตรวจสอบประวัติ และสั่งการให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามสถานีรายทาง รวมทั้งสอบสวนพนักงานบนขบวนรถที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อเท็จจริงแล้ว“ขณะนี้รายงานให้นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รักษาการ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. แล้วและยืนยันว่าร.ฟ.ท. และตำรวจรถไฟไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้แต่ได้เร่งให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบและจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบทันที”ด้านพล.ต.ต.ธนังค์ บุรานนท์ ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า คนร้ายรมยาบนขบวนรถไฟหรือไม่และยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาบุคคลใดเพราะต้องรอสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดก่อน โดยขณะนี้กำลังเชิญตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง บนขบวนรถตู้ที่10มาสอบสวนข้อเท็จจริงคือ ผู้เสียหายที่ถูกลักทรัพย์ และเจ้าหน้าที่ของ ร.ฟ.ท.ที่ ปฏิบัติหน้าบนขบวนรถตู้ที่ 10 และเร่งสรุปผลการสืบสวนสอบสว นและนำคนผิดมาลงโทษให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ด้านความปลอดภัยของผู้โดยสารรถไฟ“ขณะนี้ยังบอกไม่ว่าใครเป็นคนทำ แต่ยืนยันว่าตำรวจที่ประจำบนขบวนรถดังกล่าวทั้ง 2 คน ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด มีการเดินตรวจความปลอดภัยทุกครั้ง ที่ขบวนรถจอด และปิดประตูขบวนตู้นอนเวลา 4 ทุ่ม ตามที่กำหนด เพื่อความปลอดภัย ไม่มีใครเดินเข้าออกช่วงยามวิกาล ดังนั้นต้องสอบผู้เกี่ยวข้องให้ละเอียดว่า เกิดเหตุการณ์ลักทรัพย์ขึ้นได้อย่างไร”แหล่งข่าวจากร.ฟ.ท. ระบุว่า จากการตรวจสอบหลักฐานบริเวณที่เกิดเหตุบนตู้โดยสารรถไฟ พบว่าทรัพย์สินมีค่าจำนวนมาก ของผู้โดยสารภายในขบวนรถดังกล่าวยังอยู่ครบเช่น สร้อยคอทองคำ และเงินอีกจำนวนหนึ่งแต่มีเพียงโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง และเงินสด 2,500 บาท เท่านั้นที่ถูกขโมยไป หากเป็นโจรมืออาชีพ ก็น่าจะกวาดทรัพย์สินมีค่าไปทั้งหมดอีกทั้งยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการการดิสเครดิตการรถไฟ หรือไม่ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากร.ฟ.ท.เปิดตัวโครงการความปลอดภัยขบวนรถผู้หญิงและเด็ก ได้เพียง 5 วันเท่านั้น

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : จี้สอบเข้มรมควันปล้นรถไฟ

Posts related