นายชินาวุธ ชินะประยูร ผู้อำนวยการบริษัทนวทรรศน์ ฮอสพิทัลลิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ต้องการให้กรมการท่องเที่ยวปรับแก้ไข พ.ร.บ.มัคคุเทศก์ เพื่อรองรับสถานการณ์การท่องเที่ยวในปัจจุบัน ที่มีชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย (เอ็กซ์แพท) เข้ามาทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ช่องทางการขายแบบออนไลน์ต่างๆ ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันกับผู้ประกอบการไทย และทำให้ประเทศไทยไม่ได้รับรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างแท้จริงทั้งนี้รูปแบบที่เห็นได้ชัดเจน คือ การเปิดขายแพ็กเกจทัวร์ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้สัมผัสกับการท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรมอย่าง เช่น การเรียนทำอาหารไทย นวดแผนไทย ซึ่งกระแสการท่องเที่ยวในลักษณะนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มนัก ท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจากฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งกลุ่มดังกล่าวจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพและมีค่าใช้จ่ายสูง จึงเป็นเป้าหมายให้กลุ่มชาวเอ็กแพทเข้ามาหากินได้ง่ายขึ้น“ต้องยอมรับว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยวให้ความสนใจกับการ ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ๆ ในแบบที่ใกล้ชิดกับต้นตำรับมากที่สุด ดังนั้นการเข้ามาเจาะตลาดการท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ จึงเป็นโอกาสดีที่สุด ในช่วงที่คู่แข่งขันยังมีไม่มาก เพียง 7-8 ราย แต่หากยังไม่ปรับแก้พ.ร.บ.ให้เปิดกว้าง และยืดหยุ่นในบางเรื่องได้ เช่น เรื่องระเบียบมัคคุเทศก์ ก็จะทำให้ผู้ประกอบการชาวไทยใช้เวลาในการเริ่มทำธุรกิจนานขึ้น เช่นการ อบรมไกด์ที่ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ขณะที่หากเป็นกลุ่มเอ็กแพทจะไม่เน้นการใช้ไกด์ที่ถูกต้อง”ว่าที่ร้อยตรีอานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า ขณะนี้กรมฯได้บูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อ สาร(ไอซีที) ในการตรวจตราหาผู้ประกอบการที่ทำทัวร์ผิดกฎหมาย และเปิดการจองผ่านอินเทอร์เน็ต แต่ยอมรับว่าการจับกุมเป็นไปได้ยาก เพราะเว็บไซต์ในลักษณะนี้จะผุดขึ้นเร็วมาก แต่อย่างไรก็ตามก็ได้ทำการประสานงานกับตำรวจท่องเที่ยวในการเร่งปราบปรามผู้ กระทำความผิดด้วยเช่นกันส่วนประเด็นเรื่องไกด์เถื่อนที่เข้ามารับทำอาชีพเสริมใน ช่วงที่ไกด์หลักขาดแคลนนั้น เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันประเทศไทยยังขาดแคลนไกด์จำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่อง เที่ยว (ไฮซีซั่น) จึงเป็นช่องทางให้ไกด์เถื่อนเข้ามาหาอาชีพเสริมในช่วงนี้ได้ง่าย โดยต้องหารือกับสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมกับหาทางออกในการแก้ปัญหาไกด์เถื่อนต่อไปล่าสุด กรมได้มีหนังสือถึงสมาคมท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สมาคมกำชับสมาชิกให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวว่าจ้างไกด์ซึ่งไม่มีใบอนุญาต หรือกรณีมีก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน500,000 บาท นอกจากนี้ กรมยังเสนอเรื่องนี้ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาเร่งรัดแก้ไขปัญหาและปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่าง ให้ทันสมัยและสามารถบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรม
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : จี้เร่งแก้กฎหมายไกด์-ทัวร์
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs


