นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส.ได้ศึกษาการบริหารจัดการเงินของชาวนาหลังได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 56/57 ที่จ่ายไประหว่างวันที่ 26 พ.ค. – 18 มิ.ย.57 โดยเก็บข้อมูลตัวอย่างในพื้นที่จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก อุบลราชธานี ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา นครนายก และสุพรรณบุรี พบว่า ชาวนานำเงินที่ได้รับจากโครงการรับจำนำข้าว นำไปชำระหนี้มากที่สุด 69.1% โดยเป็นหนี้ในระบบ 65.2% เช่น หนี้ ธ.ก.ส. กองทุนหมู่บ้านและสหกรณ์ และหนี้นอกระบบ 3.9% สะท้อนถึงความมีวินัยและความซื่อสัตย์ของเกษตรกร ทั้งนี้ จากการสำรวจยังพบว่าชาวนานำเงินที่ได้จากการกู้ยืม ธ.ก.ส.และเงินที่เหลือจากโครงการรับจำนำมาลงทุนทำการผลิตรอบใหม่ โดยจ่ายเป็นค่าจ้างแรงงานมากที่สุด 39.7% รองลงมาคือค่าปุ๋ยหรือสารเคมี 32.9% ค่าเมล็ดพันธุ์ 15.2% ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อาทิค่าเช่าที่นา ค่าน้ำมันรถไถนา ค่าซ่อมบำรุงอุปกรณ์เครื่องจักรกลการเกษตร 9.1% ค่าใช้จ่ายในการผ่อนงวดเครื่องจักรกลการเกษตร 2.8% และค่าใช้จ่ายซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรใหม่เนื่องจากถูกขโมยและชำรุด 0.3% อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. เชื่อว่าการจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวที่ค้างชำระให้แก่ชาวนาและการให้สินเชื่อ รอบใหม่จาก ธ.ก.ส.นั้น จะส่งผลกระตุ้นเศรษฐกิจได้ชัดเจนมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 57 และขยายตัวได้ดีจริงในปีหน้า เนื่องจากสินค้าเกษตรสามารถเชื่อมโยงไปสู่ผลผลิตทางอุตสาหกรรมได้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและการผลิตสินค้าในภาคอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ธ.ก.ส.เผยชาวนาวินัยดีแห่ใช้หนี้

Posts related