นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.คาดว่าปีนี้จีดีพีจะโตถึง 2 % หรือไตรมาส 3 และ 4 โตเฉลี่ยไตรมาสละ 3-4% จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณให้ได้ตามแผนที่วางไว้ การกระตุ้นเศรษฐกิจตามโรดแมปต่าง ๆรวมถึงการเร่งอนุมัติคำขอส่งเสริมการลงทุนให้เกิดในทางปฎิบัติโดยเร็ว และคาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจอีก 1 ปีข้างหน้า หรือก.ค. 58 ขยายตัวได้ 5% แต่ปีนี้ ถือได้ว่าเศรษฐกิจโตต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะโตได้ 4-4.5% เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง “แต่ทั้งนี้ ระยะต่อไป ต้องยกระดับการเติบโตของประเทศให้เต็มศักยภาพ โดยต้องมีทั้งนโยบายสนับสนุนด้านอุปทาน ความสามารถแรงงาน การศึกษา การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และ การพัฒนาด้านการเงินควบคู่กันไป จึงจะทำให้เศรษฐกิจโตเต็มศักยภาพ” ขณะเดียวกัน เห็นว่ารัฐบาลไม่จำเป็นต้องมีนโยบายประชานิยมออกมากระตุ้นเศรษฐกิจเป็นพิเศษ แต่หากจะมีมาตรการใด ควรเน้นเฉพาะการแก้ปัญหาของผู้ที่เดือดร้อนเฉพาะกลุ่ม เพื่อไม่สร้างปัญหาในระยะยาว แต่ควรให้ความสำคัญต่อการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณให้มีประสิทธิภาพดีกว่า รวมถึงเร่งอนุมัติคำขอส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นจริง เพื่อให้เกิดการจ้างงาน เงินก็จะกระจายเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ส่วนการปฎิรูปภาษีนั้น โดยเฉพาะการจัดเก็บรายได้ มองว่าควรทำในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะหากขึ้นภาษีในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว อาจจะทำให้เศรษบกิจหยุดการเติบโต เหมือนกับที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นหน่วยงานของกระทรวงการคลัง ต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน รวมถึงศึกษาความสมดุลด้านการคลังด้วย หากจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจควรดำเนินการเป็นแพ็คเกจร่วมกัน “สำหรับหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 83%ต่อจีดีพีนั้น เห็นว่ายังไม่น่าห่วง เพราะอัตราการเติบโตของหนี้ชะลอลง ตั้งแต่กลางปี56ขณะที่สถาบันการเงินระวังการปล่อยสินเชื่อ เห็นได้จากสินเชื่อขยายตัวเพียง6-7% เท่านั้น ก็เบาใจได้ระดับหนึ่ง” ด้านปัจจัยเสี่ยงที่ต้อง ติดตามในระยะต่อไป คือ ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจต่างประเทศ ที่ดำเนินนโยบายต่างกัน และอาจส่งผลกระทบต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายที่เคลื่อนไหว 2ทิศทาง ซึ่งธปท. ต้องเตรียมพร้อม ด้วยการใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่น เงินทุนสำรองที่เพียงพอ และติดตามข่าวสารต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ธปท.คาดปีนี้จีดีพีโต 2% แต่ปีหน้า 5%
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs