นายจรัญ เกษร กรรมการผู้จัดการ บริษัทพรสันติ จำกัด ในเครือบริษัทแอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการแนวราบ 3 โครงการ โดยไตรมาส 3 นี้จะเปิด 2 โครงการ เป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น และทาวน์โฮม 4 ชั้น มูลค่ารวม 200 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 7.3 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 3 ชั้น มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท ในย่านบางนา-ศรีนครินทร์ และสวนหลวง ร.9 และปลายปีอีก 1 โครงการย่านพระราม 2 มูลค่า 400 ล้านบาท คาดว่าจะทำให้ปีนี้มีรายได้ 700-800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้ “ทั้งนี้การที่บริษัทมาสร้างบ้านแนวราบนั้น เพื่อขยายฐานลูกค้าเดิม ที่อาศัยอยู่คอนโดมิเนียมลุมพินีมานาน เมื่อครอบครัวขยาย ก็ย้ายมาอยู่บ้านลุมพินี ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าคอนโดฯ กว่า 30-40% ที่ขยายครอบครัวมา นอกจากนั้น ยังเป็นการบริหารจัดการทางธุรกิจ เพื่อลดความเสี่ยงจากบริษัทแม่ที่มีรายได้จากคอนโดฯ สูงถึง 97% ซึ่งนักลงทุนอาจมองว่ามีรายได้ขาเดียว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น จะทำให้มีผลต่อฐานะบริษัทได้ ดังนั้นแอลพีเอ็นจึงได้ ต่อยอดธุรกิจ และตอบโจทย์ลูกค้า โดยยังคงสร้างบ้านแนวราบระดับราคา 3-5 ล้านบาท เพื่อรองรับลูกค้าหลักคือกลุ่มบีถึงซีบวก คาดว่าช่วง 2-3 ปีแรก หากมีรายได้เพิ่มขึ้น 10% ถือว่าน่าพอใจแล้ว” แต่ทั้งนี้ในส่วนของโครงการย่านสวนหลวง ร.9 ที่ราคาสูงนั้น เนื่องจากติดปัญหาข้อกฎหมายห้ามไม่ให้สร้างห้องแถวในบริเวณดังกล่าว ส่งผลให้แต่ละหลัง ต้องมีพื้นที่อย่างน้อย 50 ตร.ม.ขึ้นไป จึงต้องสร้างบ้านราคาสูง แต่เชื่อว่าจะมีผลตอบรับที่ดี เพราะอยู่ในย่านใจกลางเขตเศรษฐกิจโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันได้วางแผนปีหน้า จะเปิดโครงการอีก 5-6 โครงการมูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท และจะมีรายได้ถึง 1,000 ล้านบาทแน่นอน แต่ในส่วนของการหาซื้อที่ดินนั้น ไม่ได้เตรียมไว้ล่วงหน้า โดยจะพิจารณาทำเล แล้วหาซื้อและก่อสร้างเลย ซึ่งขณะนี้มีเพียง 2 แปลงที่ซื้อไว้แล้วสำหรับพัฒนาโครงการปีหน้า "การก่อสร้างบ้านนั้น ง่ายกว่าคอนโดฯ ซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ทีละหลัง แต่ละหลังใช้เวลาก่อสร้าง 6-8 เดือน ก็สามารถส่งมอบและรับรู้รายได้เข้าบริษัทได้เลย และในส่วนของบ้านลุมพินีนี้ แอลพีเอ็นก็จะเข้ามาดูแลและจัดตั้งนิติบุคคลให้ด้วย เหมือนกับที่ดูแลคอนโดฯ ซึ่งเป็นแนวทางของแอลพีเอ็นอยู่แล้ว ในการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในโครงการ ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมา บริษัทก็ค่อย ๆ เติบโต จากที่มีรายได้เพียง 100 กว่าล้านบาทมาเป็น 600 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะเป็น 800 ล้านบาท”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แอลพีเอ็นเปิดตลาดแนวราบ

Posts related