นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยในงานประชุมวิชาการข้าวแห่งชาติ ประจำปี 57 เรื่อง “นโยบายข้าวไทย อดีตสู่ปัจจุบัน” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ว่า นโยบายด้านข้าวของรัฐบาล และคณะกรรมการข้าวในรัฐบาลทุกชุดของไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเป็นนโยบายที่เน้นความสำคัญเฉพาะเรื่องของราคาข้าวเพียงอย่างเดียว เพราะเชื่อว่า มีผลต่อคะแนนเสียงทางการเมือง ซึ่งที่จริงแล้วนโยบายข้าวควรกำหนดมาตรการ และนโยบายอื่นๆที่เหมาะสม เพื่อปรับปรุงการปลูกข้าวให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการจัดการชลประทานให้ดีขึ้น เพื่อช่วยให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง“ทุกรัฐบาลจดจ่อกับนโยบายราคาเพราะมีผลต่อคะแนนเสียงทางการเมือง ขณะที่เวียดนามไม่มีนโยบายเรื่องราคาแต่มีมีนโยบายพัฒนาข้าว ดังนั้นการพยายามยกระดับราคาข้าวส่งออกให้สูงขึ้น ในขณะที่เราเป็นผู้ส่งออกข้าวถึง 45%ถือว่าเป็นเรื่องยากมาก และรัฐต้องใช้ทรัพยากรสูงมาก คือขาดทุนกว่า 500,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้เงินนอกงบประมาณ เป็นต้นทุนที่หลบซ่อน ซึ่งสูงมากกับการทำนโยบายจำนำข้าวในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งผมเรียกว่ามันคือนโยบายจำนำข้าวแบบสุดซอย และผมหวังว่ามันจะสุดซอยแล้วจริงๆนโยบายแบบนี้ต้องไม่มีอีกในอนาคต และนอกจากการขาดทุนจำนวนมหาศาลกลไกตลาดข้าวก็เสียหายไปอย่างมากและต้องใช้เวลาอีกมากในการฟื้นฟู”อย่างไรก็ตามสิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ คือการจัดการสต็อกข้าวของรัฐบาลที่คงค้างมาจากนโยบายจำนำข้าวกว่า 18.5 ล้านตัน ซึ่งถือว่าเป็นสต็อกข้าวที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ และในตลาดโลกก็รู้ว่าไทยมีข้าวจำนวนมหาศาลนี้อยู่ อีกทั้งตลาดยังความกังวลว่า หากเทขายข้าวออกมาท่วมตลาดทำให้ราคาข้าวตกได้ ดังนั้นรัฐบาลต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับสต็อกข้าวนี้ โดยต้องกำหนดยุทธศาสตร์ให้ชัดเจนในการระบายข้าว และต้องเป็นยุทธศาสตร์ที่ไม่ทำให้การระบายข้าวกดราคาข้าวให้ต่ำลงกว่าในปัจจุบันด้วย นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ได้เสนอให้รัฐควรนำเงินที่เก็บภาษีจากการส่งออกข้าวที่อัตรา 0.75% จากราคาส่งออก มาตั้งเป็นกองทุนเพื่อวิจัยและพัฒนาข้าวโดยเฉพาะเพื่อทำให้ชาวนาของไทยสามารถผลิตข้าวได้ตรงกับความต้องการของตลาดโลกมากขึ้นเพราะพัฒนาการผลิตข้าวของไทย ปัจจุบันงบประมาณของกรมวิชาการเกษตร และกรมการข้าวมีงบประมาณไม่เพียงพอกับการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวให้ตรงกับความต้องการของตลาดทำให้สถานการณ์การส่งออกข้าวของไทยกำลังสูญเสียความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่มีการทำวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวเช่น ประเทศเวียดนาม
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : อัมมาร อัดนักการเมืองทำข้าวพัง
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs