ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจ 6 ข้อ ที่ได้แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยจะเร่งเรื่องของการสร้างงานในระดับรากหญ้าให้เห็นผลสำเร็จภายใน3 เดือนจากนี้ ขณะเดียวกัน ด้านการลงทุนยังต้องเร่งพิจารณาคำขอส่งเสริมการลงทุนของเอกชนที่เสนอผ่านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ควบคู่กัน ซึ่งแนวทางทั้งหมดจะจัดทำออกมาเป็นแผนที่ชัดเจน และจะชี้แจงในเร็วๆนี้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะที่ผ่านมาก็ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นทางการมาแล้วหลายครั้งสำหรับนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลแถลงต่อสนช.ได้กำหนดนโยบายระยะเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการทันที 6 ข้อคือ เร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของปีงบประมาณ 57 ที่ยังค้างอยู่ภายในสิ้นปีนี้, สานต่อนโยบายงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จัดทำไว้,เร่งพิจารณาโครงการลงทุนที่นักลงทุนยื่นขอผ่านบีโอไอ ,ดูแลเกษตรกรให้มีรายได้ที่เหมาะสมด้วยวิธีการต่างๆ,ลดอุปสรรคด้านการส่งออก และหาแนวทางชักจูงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นทั้งนี้ในแผนงานระยะยาว สิ่งที่เป็นเรื่องที่ยากที่สุด และเป็นเรื่องใหม่คือ การส่งเสริมภาคเศรษฐกิจดิจิทัล และวางรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัล ให้สำเร็จภายใน 1 ปี เพราะปัจจุบันเรื่องดังกล่าวมีความสำคัญมากและเป็นฐานให้ภาคเศรษฐกิจอื่นขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น ภาคการเงินก็ต้องใช้ระบบดิจิทัลในการทำธุรกรรมทางการเงินหรือภาคอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ก็ต้องพึ่งเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมาประเทศไทยคิดเรื่องดังกล่าวช้าไปหากเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมานาน“เรื่องเร่งด่วนจะต้องทำให้ลุล่วงใน 3 เดือนนี้ เพราะจะเป็นตัวที่ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโตจากนั้นในระยะต่อไปก็เร่งเรื่องที่ค้างมา เช่น โครงสร้างราคาน้ำมัน ภาษีหรือปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรมเกษตร และสุดท้ายคือวางรากฐานอนาคต ใช้เวลานานอันไหนที่ทำได้ก็ทำเป็นฐานไว้เลย เช่น โครงการคมนาคมที่ใช้เวลาหลายปี และที่ยากที่สุดคือเศรษฐกิจดิจิทัลซึ่งเป็นเศรษฐกิจฐานใหม่ ที่ไม่ใช่แค่ซอฟแวร์ และฮาร์ดแวร์ หรือเครื่องโทรศัพท์ จึงต้องเร่งสร้างฐานดังกล่าวรองรับการขยายตัวในอนาคต”ส่วนเป้าหมายเศรษฐกิจในปี 57 นี้ แม้ว่าที่ผ่านมา คสช.จะกำหนดเป้าหมายให้เศรษฐกิจเติบโตที่2% นั้น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นว่าตัวเลขเหล่านี้มีความสำคัญเพราะเรื่องสำคัญคือการเร่งสร้างงานให้เร็วขึ้นใน 3 เดือนนี้ ส่วนเรื่องของส่งออก รัฐบาลก็กำหนดนโยบายการแก้ไขอุปสรรคให้เกิดความสะดวกกับเอกชนเพราะเรื่องดังกล่าวหากจะไปแก้ไขจากภายนอกไม่ได้ ซึ่งหากแผนทั้งหมดชัดเจนจะชี้แจงอีกครั้งและเสนอครม.พิจารณาด้วย
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “หม่อมอุ๋ย”เดินหน้านโยบายเศรษฐกิจ
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs