นายทวี ธีระสุนทรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวในโลกโซเชียลมีเดีย ส่งข้อความเตือนผู้ใช้บริการตู้เอทีเอ็ม ดึงบัตรออกเพียงครึ่งเดียว เพื่อให้การคัดลอกข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม หรือสกิมมิ่งล้มเหลว จากการโจรกรรมว่า กรณีดังกล่าวสามารถทำได้จริง แต่ทั้งนี้ยังไม่ใช่เป็นสูตรสำเร็จ เพราะปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อโจรกรรมข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะติดตั้งระบบเขย่าบัตรเอทีเอ็มเพราะต้องการให้ผู้ใช้ดึงเอทีเอ็มออกจากตู้อย่างช้า ๆ นั้น ก็สามารถช่วยให้การคัดลอกข้อมูลไม่สมบูรณ์ แต่ทั้งนี้ไม่ใช่การรับประกันว่าจะป้องกันได้ทุกครั้ง เนื่องจากตู้เอทีเอ็มในแต่ละรุ่นนั้น ใช้เทคโนโลยีที่ต่างกันไป ดังนั้นแนวทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือเอามือปิดช่วงที่กดรหัสเอทีเอ็ม ไม่ให้คนอื่นเห็น เพราะถึงแม้ว่าจะได้ข้อมูลในไป แต่หากไม่มีรหัสเอทีเอ็ม ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากนี้แนะนำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนรหัสเอทีเอ็มถี่มากขึ้นกว่าเดิมด้วย“ในหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน ยุโรป สหรัฐอเมริกา ก็ประสบปัญหาสกิมมิ่งเช่นกัน จึงไม่มีสูตรตายตัวในการแก้ปัญหา ซึ่งปกติธนาคารพาณิชย์ ก็รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกรณีที่ลูกค้า ใช้ตู้เอทีเอ็ม และถูกสกิมมิ่งข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นบัตรเอทีเอ็มของธนาคารเอง หรือบัตรเอทีเอ็มของธนาคารอื่นที่กดตู้ของธนาคารกสิกรไทย”สำหรับ กรณีที่ที่ลูกค้าพบเห็นสิ่งแปลกปลอม หรือสงสัยว่า มีการติดแถบคัดลอกข้อมูล ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ทันที และถ้าลูกค้าเห็นอุปกรณ์แปลกปลอม ต้องการดึงออกจากตู้เอทีเอ็ม ก็สามารถทำได้ แต่การดึงออกนั้น จะต้องไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อตู้เอทีเอ็ม เช่น ใช้ค้อนทุบ เป็นต้น ไม่เช่นนั้น จะถือว่าเป็นการทำลายทรัพย์สินของธนาคาร พร้อมทั้งดูเจตนารมย์ด้วยว่าเป็นอย่างไร

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แนะใช้มือปิดรหัสเอทีเอ็ม

Posts related