ดร.ทวีศักดิ์  กออนันตกูล  ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ  (สวทช.)  เปิดเผยในบทความสัมภาษณ์เกี่ยวการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล ที่เผยแพร่แก่สื่อมวลชนว่า แม้ประเทศไทยจะกำลังเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล  ทั้งด้านเทคโนโลยีและบริการต่าง  ๆ  แต่ก็มีความเสี่ยงมากขึ้นทางด้านความปลอดภัย  หากประเทศไทยยัง ไม่รู้เท่าทันเรื่องของความเสี่ยงเหล่านี้    ที่ผ่านมาแม้ประเทศไทยจะเริ่มเดินหน้าในการเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลมาพอสมควร โดยมีการจัดตั้งกระทรวงไอซีทีขึ้นตั้งแต่ปี 2545 และมีแผนแม่บทไอซีทีฉบับแรกของประเทศ ซึ่งตนเองเป็นประธานในการยกร่างขึ้น แต่ยอมรับว่ายังไปได้ไม่ถึงไหน   ซึ่งการเมืองถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การเดินหน้าช้าลง   โดยเฉพาะเรื่องการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตราคาถูกของพื้นที่ชนบทห่างไกล  ที่วันนี้ ประเทศเพื่อนบ้านนำไปหมดแล้ว  แม้แต่เวียดนามที่เริ่มหลังไทยหลายปีก็ตาม ดร.ทวีศักดิ์  กล่าวว่า  การเดินหน้าเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมั่นคง    ควรต้องมีการปรับปรุงประเทศในหลายด้าน  เช่น การพัฒนาเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วประเทศ  และราคาถูก  การลงทุนทำฐานข้อมูลเพื่อบริการประชาชน และการทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐโดยไม่ต้องไปถึงที่สำนักงานของรัฐมากนัก และที่สำคัญถึงเวลาแล้วที่ภาครัฐควรที่จะต้องยกเลิกการขอสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านจากประชาชนเสียที ทั้งนี้สวทช.เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2535   โดยเสนอให้ครม.สร้างระบบอีดีไอ( Electronic Data Interchange)  ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ช่วยให้ผู้นำเข้าส่งออกสินค้าต่างๆ สามารถผ่านด่านศุลกากรโดยไม่ต้องส่งเอกสารที่เป็นกระดาษ จนปัจจุบันไทยมีระบบรัฐบาลอิเล็กทรอกนิกส์หลายเรื่อง ซึ่งหน่วยงานที่เริ่มทำเรื่องต่าง ๆ นี้ก็มาจากสวทช.  ดร.ทวีศักดิ์  กล่าวอีกว่า  มองเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ของกระทรวงเดียว แต่ต้องร่วมมือกันเป็นกระบวนการระหว่างกระทรวง ซึ่งสวทช.ยินดีที่จะทำงานวิจัยและส่งต่อผลงานสำคัญให้กระทรวงที่ดูแลเศรษฐกิจ ดิจิทัลเอาไปขยายผล สำหรับกรณีกระทรวงไอซีทีอยากโอนย้ายเนคเทคไปอยู่ด้วยนั้น  ดร.ทวีศักดิ์ กล่าวว่า สวทช.ยินดีสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ซึ่งหากแผนการจัดตั้งกระทรวงใหม่มีความชัดเจนในภารกิจ หน้าที่ความรับผิดชอบ โครงสร้างและรูปแบบขององค์กรแล้ว เชื่อว่าจะมีพนักงานส่วนหนึ่งสนใจที่จะไปร่วมงานด้วยอยู่แล้ว ซึ่งก็พร้อมสนับสนุน “แต่ ณ วันนี้ ขอเรียนว่า ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งท่านรัฐมนตรีว่าการ และท่านปลัดฯ หรือ สวทช. ยังไม่เคยมีการหารือร่วมกันเป็นทางการในเรื่องนี้กับทางกระทรวง ไอซีทีแต่อย่างใด ว่าภารกิจใดมีความจำเป็นต้องเกิดขึ้นในกระทรวงไอซีที และต้องการทีมงานแบบใดไปทำงาน”  อย่างไรก็ดี เห็นว่าไม่ควรที่จะโอนย้ายเนคเทคไปทั้งหมดทั้งคนและทรัพย์สิน แต่ควรเป็นรูปแบบอื่น ๆ เช่น การตั้งหน่วยงานใหม่ที่ดีๆ ในกระทรวงเศรษฐกิจดิจิทัล และให้พนักงานสวทช. ที่สนใจสมัครใจตัดสินใจขอย้ายไปเอง แต่หน่วยงานใหม่ก็คงจะต้องพิจารณาคัดเลือกด้วย ไม่ได้รับทุกคนที่แสดงความประสงค์จะไป  “ผมมองว่า  การมีเนคเทค อยู่ที่สวทช. ยังมีความจำเป็น เพราะหลายเรื่องที่เนคเทคทำ โดยเฉพาะส่วนงานวิจัยต้นน้ำ ทั้งที่เป็น Goal-Oriented Basic Research หรือเป็น Platform Technology ยังควรอยู่ภายในสวทช. เพื่อร่วมขับเคลื่อนไปพร้อมกับเทคโนโลยีแขนงอื่นเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของประเทศในภาพรวม เช่นเดียวกับที่หน่วยงานแบบเดียวกับสวทช. ในต่างประเทศ  ส่วนงานบางเรื่องที่ใกล้ตลาดหรืออยู่ปลายน้ำ ถ้าคิดว่า การไปดำเนินการภายใต้กระทรวง ไอซีทีหรือกระทรวงเศรษฐกิจดิจิทัล จะสามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ผลกระทบที่คาดหวังได้แรงกว่า ก็เป็นสิ่งที่จะต้องมาคุยกันในระดับบริหารของทั้งสองกระทรวง ให้ได้ข้อสรุปที่เห็นชอบร่วมกันก่อนที่จะดำเนินการ”  ดร.ทวีศักดิ์  กล่าว  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เปิดใจผอ.สวทช.หนุนเศรษฐกิจดิจิทัล แต่ไม่ควรเอาเนคเทคไปทั้งหมด

Posts related