นายวรเดช หาญประเสริฐ ปฏิบัติหน้าที่รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบ และจับกุมผู้กระทำความผิดปล่อยโคมลอย หรือจุดบั้งไฟ โดยไม่ได้รับอนุญาต เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับอากาศยาน หลังจากได้ขอความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว แต่ยังพบผู้กระทำความผิดอยู่เป็นจำนวนมาก“พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ได้มอบหมายให้ไปศึกษาหามาตรการป้องกัน ไม่ให้เกิดอุบัติทางการบินจากการปล่อย โคมลอย และการจุดบั้งไฟ ให้ได้ข้อสรุปภายในวันที่ 30 พ.ย.นี้ จากนั้นจะกำหนดกรอบและแนวปฏิบัติที่ชัดเจน โดยจะเน้นเรื่องการกำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้น รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพราะข้อกำหนดและแนวปฏิบัติต่าง ๆ มีอยู่แล้ว แต่ปัญหาหลักเกิดจากการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และยังพบว่าเกิดธุรกิจการพนันจากการจุดบั้งไฟด้วย”ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม จะจัดตั้งเป็นคณะทำงานร่วมกัน และสั่งการไปในแต่ละพื้นที่ให้ดำเนินการอย่างจริงจัง กับผู้ที่กระทำผิดหรือฝ่าฝืน เพราะแม้การจุดบั้งไฟ จะเป็นประเพณีท้องถิ่น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มักมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการเล่น พนัน ดังนั้นหากมีการเข้มงวดกวดขั้นจะลดอันตรายต่าง ๆได้น้อยลง รวมทั้งจะต้องกำหนดช่วงเวลา และพื้นที่ที่มีการจุดบั้งไฟ หรือปล่อยโคมลอย ให้ชัดเจนด้วย หลังจากมีการขยายพื้นที่ออกไปมาก จนกลายเป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งของร้านอาหารต่าง ๆ แล้ว ดังนั้นที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเพณีท้องถิ่น อาจกำหนดเป็นข้อห้ามสำหรับข้อกำหนดขนาดมาตรฐานโคมลอย ต้องมีปริมาตรไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 90 ซม.หรือสูงไม่เกิน 140 ซม.ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น กระดาษ ส่วนโครงทำจากไม้ไผ่ เชื้อเพลิงทำจากกระดาษชุบเทียนขี้ผึ้ง พาราฟิน น้ำหนักไม่เกิน 55 กรัม โดยมีเวลาเผาไหมเชื้อเพลิงไม่เกิน 8 นาที และจะยึดติดกับตัวโคมที่ทำด้วยเชือกทนไฟหรือลวดอ่อนเบอร์ 24 จำนวน 2 เส้น ยาวเส้นละไม่เกิน 30 ซม.พล.อ.อ.ประจิน กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การจุดบั้งไฟบางรุ่นสูงถึงระดับ 30,000 ฟิต ซึ่งเป็นความสูงระดับเดียวเพดานการบินของเครื่องบิน ซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุได้ รวมทั้งยังพบว่ามีการปล่อยโคมลอย นอกเวลาหรือนอกเทศกาล จึงเห็นควรที่จะกำหนดมาตรการทางกฎหมาย ที่จะบังคับหรือควบคุม เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยให้ดำเนินการแบบเป็นขั้นเป็นตอน เริ่มจากการขอร้อง ทำความเข้าใจ และการใช้กฎหมายบังคับอย่างจริงจัง"ยอมรับว่าการปล่อยโคมลอยและบั้งไฟ ถือเป็นประเพณีของไทยที่ต้องมีการอนุรักษ์ไว้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อการบิน จึงให้ไปหาแนวทางที่จะป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายและและยังคงรักษาประเพณีเอาไว้ด้วย”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ล้อมคอมปล่อยโคมลอย

Posts related