พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมหารือร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยว่าที่ประชุมได้หารือเรื่องการดูแลราคาข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูกาลนาปี 2557/58ที่กำลังทยอยออกมาในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ คาดว่ามีปริมาณมากถึง 6 ล้านตันข้าวเปลือกซึ่งเห็นพ้องที่จะกำหนดเป้าหมายในการผลักดันราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ 100%ชั้น 2ให้เกษตรกรขายได้ในราคาตันละ 15,000 – 16,000บาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่เกษตรกรพอใจ“ในการประชุมทางผู้ส่งออกข้าวก็ได้เสนอแนวทางที่จะทำให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคาตามเป้าหมายที่กำหนดไว้คือ 15,000 – 16,000 บาท/ตันซึ่งก็มีหลายวิธีการทั้งการดูดซับปริมาณส่วนเกินของข้าวมาเก็บไว้ในสต๊อกก่อนคาดว่าจะดูดซับออกมา 2 ล้านตันโดยในการดูดซับก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นแน่นอนและรัฐก็อาจจะดูแลช่วยเหลือในส่วนนี้ให้”สำหรับรายละเอียดของมาตรการในการผลักดันราคาข้าวเปลือกหอมมะลิยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้แต่จะมีมาตรการที่เพิ่มเติมนอกเหนือจากการดูดซับปริมาณข้าวออกจากตลาดเพราะต้องรอข้อสรุปและนำเสนอมาตรการให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.)เห็นชอบก่อน คาดว่าจะมีการประชุมภายในสัปดาห์หน้าขณะที่การดูแลราคาข้าวเปลือกเจ้าโดยได้กำหนดเป้าหมายไว้ที่ตันละ 8,500 บาท ซึ่งขณะนี้ราคาข้าวเปลือกเจ้าในตลาดใกล้เคียงกับราคาเป้าหมายถือเป็นราคาที่สมดุลกับทุกฝ่ายทั้งผู้ส่งออก ชาวนา และโรงสีและรูปแบบความร่วมมือกับภาคเอกชนก็จะดำเนินการต่อเนื่องในฤดูกาลต่อไปด้วย“ข้าวเปลือกเจ้ารัฐบาลอยากเห็นราคาเป้าหมายที่ตันละ 8,500 บาท ต่อจะต้องใช้วิธีการกำหนดราคากลางขึ้นมาในลักษณะที่สร้างความยุติธรรมกับทุกลุ่มโดยราคากลางไม่ใช่ราคาบังคับ แต่เป็นราคาที่ยืนเป็นราคาแนะนำซึ่งการดูแลราคาข้าวควรจะปรับให้ผันแปรไปตามราคาตลาดโลกเพราะถ้าหากราคาตลาดสูงขึ้น ชาวนาก็ควรจะได้ราคาที่สูงขึ้นด้วยเรื่องนี้เราได้ทำความเข้าใจกับโรงสีแล้ว”นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการในการรุกตลาดส่งออกข้าวโดยรัฐบาลและเอกชนจะต้องร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลในการส่งออกข้าวเป็นรายตลาดๆพร้อมทั้งสนับสนุนการทำแบรนด์ข้าวหอมมะลิไทย เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพข้าวไทยและเป็นช่วงตลาดส่งออกสำคัญๆของไทย เช่น แอฟริกา จีน หรือฮ่องกง กลับคืนมาและทำให้ไทยกลับมาเป็นแชมป์ส่งออกข้าวได้เหมือนเดิม

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์เล็งออกมาตรการดันราคาข้าวหอมมะลิ

Posts related