วันนี้(18 ต.ค.) ดร.อัจฉรา วงศ์แสงจันทร์ รองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รักษาราชการแทน เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ หรือ ปส.เปิดเผยว่า การนำรังสีมาใช้ประโยชน์จะต้องมีการประเมินและควบคุมไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนทั่วไปได้รับรังสีเกินขีดจำกัดของการได้รับรังสีตามที่ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA กำหนดไว้ ซึ่งเดิมขีดจำกัดการได้รับรังสีของเลนส์ตาสำหรับผู้ปฏิบัติงานต้องไม่เกิน 150 มิลลิซีเวิร์ต ต่อปีแต่ล่าสุด IAEA ได้จัดประชุมปรับปรุงในส่วนที่เกี่ยวกับการได้รับรังสี เนื่องจากได้รับข้อมูลจากผลการวิจัยเกี่ยวกับปฏิกิริยาของผลกระทบของรังสีต่อเนื้อเยื่อและได้มีข้อเสนอให้ลดขีดจำกัดการได้รับรังสี (ปริมาณรังสีสมมูล) สำหรับเลนส์ตา ซึ่งต่อมา IAEA ได้มีข้อสรุปหลังจากการปรึกษาหารือของประเทศสมาชิกให้ปรับลดค่าขีดจำกัดการได้รับรังสีที่เลนส์ตาต้องไม่เกิน 20 มิลลิซีเวิร์ต ต่อปี โดยเฉลี่ยในช่วงห้าปีติดต่อกัน โดยแต่ละปีต้องไม่ได้รับรังสีเกิน 50 มิลลิซีเวิร์ต และตลอดในช่วงห้าปีติดต่อกันนั้นต้องไม่ได้รับรังสีเกิน 100 มิลลิซีเวิร์ต สำหรับการตรวจวัดปริมาณรังสีที่เลนส์ตาได้รับ ทำได้โดยใช้เครื่องวัดรังสีประจำตัวบุคคลสำหรับเลนส์ตา“หลายประเทศได้นำเอามาตรฐานของ IAEA ฉบับแก้ไขดังกล่าวมาใช้ โดยออกเป็นกฎระเบียบของประเทศนั้นๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน ซึ่งการจัดทำมาตรฐานยังสามารถทำร่วมกันได้ระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยกับผู้ประกอบการฉะนั้น กรณีการปรับลดขีดจำกัดนี้ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ อยู่ระหว่างการนำมาพิจารณาทบทวน กฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ IAEA ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้รวมทั้งต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย”ดร.อัจฉรา กล่าว

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ปส.ดันแก้กฎหมายลดขีดจำกัดการรับรังสีของผู้ปฏิบัติงาน

Posts related