ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20ต.ค.เวลา 21.00 น. ทวิตเตอร์ของ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) @takorn tantasith มีการทวิตเอกสารลับมาก เสนอขอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.กสทช .2553โดยการปรับปรุงโครงสร้างของกสทช.เป็นการเร่งด่วนให้มีคณะเดียวที่ทำหน้าที่การจัดสรรคลื่นและการกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อให้เกิดเอกภาพส่งเสริมการกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นธรรมสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและธุรกิจที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วได้เป็นอย่างดีรวมทั้งสร้างบรรยากาศที่สนับสนุนระบบเศรษฐกิจฐานดิจิตอลและรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้อย่างเหมาะสมแหล่งข่าวจาก กสทช.กล่าวว่าการที่กสทช.เสนอปรับโครงสร้างโดยยุบคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ไว้ให้มีแค่ กสทช.หน่วยงานเดียวโดยจะนำเอามาตรา 35 ออก ที่มีการให้อำนาจบอร์ดเล็กทั้ง 2บอร์ดออกเนื่องจากที่ผ่านมามีประเด็นการตัดสินใจร่วมกันหลายประเด็นที่มีปัญหา อาทิการออกอากาศคู่ขนานของ ช่อง3 ที่บอร์ด กสท ต้องการให้บอร์ดกสทช.อนุมัติตามมติ กสท. ซึ่งบอร์ดกทค.ก็ไม่อยากรับผิดชอบในการตัดสินใจของบอร์ด กสท.นอกจากนี้ ยังมีประเด็นก่อนหน้านี้ที่บอร์ดกทค.โดนฟ้องร้องในการประมูล 3จี บอร์ด กสท.ก็ไม่อยากรับผิดชอบด้วยอีกทั้ง ทุกการฟ้องร้อง บอร์ด กสทช.ก็จะต้องรับผิดชอบด้วย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเลขา กสทช.ได้มีการหารือกับคณะกรรมการกฤษฏีกาหลายครั้งแล้ว ซึ่งต่อจากนี้จะนำเสนอครม.และ สนช.อนุมัติ โดยจะใช้เวลาไม่น่าเกินสิ้นปีนี้ ซึ่งแก้กฎหมาย พ.ร.บ.กสทช.2553นี้ จะเป็นการระบุอำนาจหน้าที่รับผิดชอบซึ่งแบ่งแยกออกเป็นฝ่าย กสท.และ กทค. ให้แก้ไขเป็นอำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ กรรมการกสทช.ทั้งหมด ส่วนมติของที่ประชุมชุดเล็กที่ผ่านมา ยังคงให้มีผลบังคับใช้ต่อไปส่วนการปรับโครงสร้างองค์กรทั้งหมดนั้น จะต้องรอความชัดเจนของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก่อนซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลา 2 ปี“การทำงานต่อจากนี้ของกสทช.หลังจากแก้กฏหมายและได้ปรับอนุมัติให้ปรับโครงสร้างดังกล่าวนั้น จะทำให้กสทช.รอดพ้นจากการโดนยุบทั้งหมด เพราะที่ผ่านมาอำนาจไม่ชัดเจนบางครั้งบอร์ดเล็กมีอำนาจตัดสินใจ แต่บอร์ดใหญ่ไม่มีอำนาจแต่สุดท้ายการฟ้องร้องบอร์ดใหญ่ก็โดนไปด้วยซึ่งประธานบอร์ดดูเหมือนจะมีอำนาจแต่เอาเข้าจริงแค่การออกงานเท่านั้น ดังนั้นการยุบรวมถือเป็นทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุดและการทำงานก็เป็นการตั้งคณะอนุกรรมการในเรื่องต่างๆ แล้วเข้าบอร์ดใหญ่พิจารณาน่าจะดีกว่าซึ่งคณะกรรมการ กสทช.ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการปรับโครงสร้างดังกล่าว” แหล่งข่าวกล่าวด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขากสทช.เปิดเผยว่า ตนไม่ได้เป็นผู้โพสต์ภาพเอกสารดังกล่าว แต่ยอมรับว่าได้ถ่ายรูปเอกสารเก็บไว้จริงในเครื่องไอแพดส่วนตัว และตอนนี้ได้ลบภาพดังกล่าวออกแล้ว

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เผยกสทช.เสนอปรับโครงสร้างองค์กร

Posts related