นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เพื่อขอทบทวนวิธีการปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ใหม่ โดยขอให้กรมการขนส่งทางบก พิจารณาขึ้นค่าโดยสารเพิ่มเป็น 20% ให้สะท้อนกับต้นทุนการขับรถที่แท้จริง ซึ่งสูงกว่าข้อเสนอภาครัฐที่จะให้ปรับขึ้น 8-13% รวมถึงเสนอให้ปรับค่าโดยสารเต็มเพดานในครั้งเดียว ไม่ใช่แบ่งการปรับเป็น 2 รอบ รอบแรก 8% และรอบสอง 5% เหมือน ที่เสนอมา เพราะจะทำให้เกิดความยุ่งยากมาก ทั้งนี้เครือข่ายสหกรณ์ฯ จะให้เวลารัฐบาลพิจารณาอีก 15 วัน หรือไม่เกินกลางเดือนพ.ย.นี้ หากไม่มีการพิจารณาตามที่เรียกร้อง จะนัดหารือเพื่อกำหนดท่าทีการคัดค้านต่อไปทั้งนี้สาเหตุที่ต้องขอขึ้นค่าโดยสารเป็น 20% เนื่อง จากที่ผ่านมา แท็กซี่ไม่ได้ขึ้นค่ามิเตอร์มานานถึง 13 ปี ประกอบกับค่าครองชีพปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นการคำนวณราคามิเตอร์ใหม่ ควรใช้ฐานเงินเฟ้อจาก 13 ปีย้อนหลัง ไม่ใช่ 6 ปีย้อนหลังเหมือนที่คิดมา ที่สำคัญหากแบ่งการจูนมิเตอร์เป็น 2 รอบ จะทำให้เสียเวลา และต้นทุนการตรวจสอบสภาพรถสูงมาก ซึ่งปัจจุบันมีแท็กซี่ 1 แสนคัน หากจะปรับจูนครบทุกคันต้องใช้เวลา 6-8 เดือน ดังนั้นถ้าปรับ 2 รอบ ก็ใช้เวลาปรับปรุงนานเป็นปี เสียเวลาทำมาหากิน สิ้นเปลืองต้นทุนการปรับสภาพรถอีกมาก“หลังจากที่รับฟังแนวทางการปรับค่าโดยสารแท็กซี่ กับกรมการขนส่งทางบก เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ฯ ได้หารือ และเห็นตรงกันว่า รายละเอียดนี้ไม่ครอบคลุมการแก้ปัญหา และสร้างความยุ่งยากให้แก่แท็กซี่ ที่สำคัญการขึ้น 8-13% ไม่ ได้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง จึงเรียกร้องให้ทบทวนขึ้นค่าโดยสารเป็น 20% ซึ่งไม่สามารถลดหย่อนลงได้อีกแล้ว และยังมีข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือควรปรับขึ้นค่าโดยสารเป็นครั้งเดียว เร่งรัดให้ประกาศอัตราค่าโดยสารใหม่ ต้องปรับค่าโดยสารมากกว่า 13% และขอให้มีมาตรการปราบปรามรถป้ายดำที่เข้ามาประกอบการเป็นแท็กซี่อยู่ในขณะ นี้อย่างจริงจัง”นายวิฑูรย์ กล่าวว่า การขอขึ้นค่าแท็กซี่เพิ่ม 20% เป็นราคาที่ไม่รวมกับแนวโน้มราคาพลังงานที่กำลังปรับเพิ่มขึ้น โดยหากรัฐบาลอนุมัติให้ขึ้นค่าโดยสาร 20% จริง จะครอบคลุมก๊าซแอลพีจีที่เพิ่มขึ้น 1.20 บาทต่อกก.เท่านั้น แต่ถ้าแอลพีจีขึ้นราคาเกินกว่านั้น รัฐจะต้องเพิ่มค่าโดยสารให้มากกว่า 20% ด้วย ส่วนก๊าซเอ็นจีวีขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบใด เนื่องจากได้รับการชดเชยจากนโยบายบัตรพลังงานจากรัฐบาลอยู่ แต่ถ้าสิ้นปีนี้หมดมาตรการชดเชย ก็จะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น และอาจจะขอค่าโดยสารเพิ่มตามมาด้วย
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แท็กซี่เหิมขอขึ้นราคา 20%
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs