ไปไม่ได้ครับแก๊สไม่พอ ไปส่งรถครับ ไม่ไปครับ!! เป็นประโยคที่ผู้ใช้บริการรถแท็กซี่อย่างเป็นประจำ มักได้ยินกันจนชินหู แม้ว่าเรื่องของการปฏิเสธผู้โดยสารไม่ว่ากรณีใดก็ตามจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่มีผู้ขับแท็กซี่ส่วนใหญ่ฝ่าฝืนอยู่เป็นประจำ สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพมาตรฐานด้านงานบริการสาธารณะของเมืองไทยที่ไม่มี ประสิทธิภาพ ยิ่งถ้าถึงช่วงที่เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี กำลังนับเวลาถอยหลังเข้ามาอีกไม่นานจากนี้ หากไม่เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้หมดไป หรือไม่เริ่มยกระดับมาตรฐานการบริการให้ลูกค้ารู้สึกอุ่นใจเมื่อใช้บริการแล้ว ความฝันที่วาดไว้จะเป็นศูนย์กลางการบริการของอาเซียน คงไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน ดร.ฐิตารีย์ ไชยเศรษฐ หัวหน้าสาขาวิชาการท่องเที่ยว คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บอกในรายการเศรษฐกิจติดจอ ทางเดลินิวส์ทีวี เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ว่า ปัญหารถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะบรรดาผู้ขับแท็กซี่ที่คอยเอาเปรียบนักท่องเที่ยวยังมีอยู่มากในปัจจุบัน เรื่องนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ไม่ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย และควรแก้ไขอย่างเร่งด่วน เริ่มแรกอาจต้องสร้างจิตสำนึกของผู้ที่ขับแท็กซี่ก่อน สร้างมาตรฐาน สร้างตัวอย่างที่เป็นไปตามมาตรฐานที่มีอยู่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาใช้บริการได้รู้สึกถึงความปลอดภัย และไม่ถูกเลือกปฏิบัติ ขณะที่ภาครัฐเอง ตอนนี้ถือว่ายังไม่ได้มีความสำคัญอะไรมาก เพราะการจะยกระดับมาตรฐานการบริการได้ ต้องให้ผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของเองปรับตัวเอง มองหาสิ่งใหม่ที่มีตัวอย่างให้เห็นอยู่แล้ว เช่นตัวอย่างของแท็กซี่ในประเทศญี่ปุ่น แต่งตัวดีใส่ชุดสูท ใส่ถุงมือ และมีเงินทอนทุกครั้ง โดยผู้ที่ใช้บริการไม่จำเป็นต้องพูดภาษาญี่ปุ่น หรืออังกฤษให้ได้ เพราะเมื่อเข้าไปใช้บริการจะรู้สึกถึงความปลอดภัย และสะดวกสบายมาก ส่วนไทยเองถ้าหยิบเอาตัวอย่างที่ดีอย่างนี้มาพัฒนาปรับปรุง ปรับโฉมแท็กซี่เดิม ๆ ของที่มีอยู่ใหม่ ก็ไม่ใช่เรื่องยากและสามารถทำได้ทันที แต่อยู่ที่ว่าจะเริ่มทำหรือยัง ซึ่งตอนนี้ก็หวังว่า ผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของสหกรณ์แท็กซี่ที่มีอยู่อย่างหลากหลายกลุ่มในเมืองไทยนั้น น่าจะมีกลุ่มสหกรณ์ใดสักสหกรณ์หนึ่ง นำร่องสร้างมาตรฐานที่ว่านี้ให้เกิดขึ้น เพื่อเป็นตัวอย่าง และต่อไปเมื่อได้รับการยอมรับ เชื่อว่าทุก ๆ สหกรณ์คงต้องนำรูปแบบที่ว่านี้มาใช้ต่อแน่นอน และตอนนั้นคงเรียกได้ว่า แท็กซี่บ้านเรามีมาตรฐานแล้ว นอกจากนี้ในเรื่องของมารยาท อาจต้องแยกออกมามาตรฐานการบริการด้วย เพราะสิ่งนี้สร้างได้ด้วยจิตสำนึกการให้บริการที่แท้จริง ขณะที่กรณีการคิดค่าใช้จ่าย หรือการอ้างว่านำรถไปส่งคืน ถ้าเราตำหนิไปที่คนขับรถแท็กซี่หมดเลยคงไม่ได้ เพราะต้องย้อนไปดูด้วยว่า สาเหตุที่เขาต้องทำอย่างนั้นเพราะอะไร เรื่องนี้ผู้เป็นเจ้าของสหกรณ์แท็กซี่คงต้องไปหาทางแก้ โดยนัดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมานั่งคุยกันว่า ทำอย่างไรถึงจะให้ส่วนแบ่งค่าใช้จ่าย และส่วนแบ่งรายได้ที่มาสมเหตุสมผล ไม่กระทบต่อการบริการผู้โดยสาร เพื่อกำหนดให้คนขับแท็กซี่รับรู้ว่า เมื่อประกอบอาชีพนี้แล้วมีความยั่งยืนในอาชีพ อยากให้เอาสิ่งที่ทำได้จริงมาทำเสียก่อน เรื่องบริการนี้เป็นเรื่องง่าย ๆ ไม่ต้องใช้กลไกรัฐเข้ามากำกับก็ทำได้ และอยากให้มีสหกรณ์ใดสหกรณ์หนึ่งทำเป็นโมเดลขึ้นมา ทำให้ดีเลย แล้วเมื่อถึงตอนนั้นผู้โดยสารคงเลือกใช้และรู้ว่าเมื่อได้รับบริการอย่างนี้แล้วก็อยากมาใช้บริการ อยากให้เราทำให้เรื่องของการบริการแท็กซี่บ้านเรานี้เป็นเรื่องที่เป็นปกติ เป็นธรรมชาติของการบริการ ที่มีอยู่แล้วกับตัวมันเอง ไม่ใช่อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทำอย่างไรให้ผู้มาใช้รู้สึกว่ามีความปลอดภัยการเดินทาง ง่ายกว่าไปคิดโครงการที่บ้านเราทำไม่ได้ อย่างเช่น แท็กซี่อัจฉริยะ กรุงเทพฯเมืองแห่งจักรยาน ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่ากรุงเทพฯไม่ใช่สถานที่ที่น่าขี่จักรยานอะไรเลย อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่ากลัวต่อจากนี้ หากประเทศไทยยังไม่ปฏิรูประบบการให้บริการประชา ชนทั้งระบบให้ได้มาตรฐาน คงอาจเสียประโยชน์จากการที่เปิด เออีซีไปแล้ว เพราะถึงเวลานั้นสิ่งที่เรายืนยันว่า พร้อม แต่เมื่อมี ผู้มารับการใช้บริการแล้ว เห็นว่า ไม่ใช่ เมื่อนั้นถ้าจะแก้อะไรคงไม่ทันอีกแล้ว ขณะเดียวกันการขนส่งสาธารณะทุกรูปแบบที่มีอยู่ในกรุงเทพฯ หากในอนาคตรัฐบาลผลักดันก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า และรถไฟฟ้าความเร็วสูงได้เสร็จจริง การกระจายคนไปยังต่างจังหวัดจะมีมากขึ้น เมืองใหญ่ในต่างจังหวัดจะเริ่มโต ส่วนกรุงเทพฯ คนจะอยู่น้อยลง คนใช้แท็กซี่ก็ลดน้อยลง ยิ่งถ้าคนรู้ว่าใช้แท็กซี่แล้วเจอการให้บริการเหมือนเดิม ตอนนั้นจะมาร้องก็คงสายไปแล้ว ดร.ฐิตารีย์ บอกทิ้งท้ายด้วยว่า การจะทำให้อาชีพบริการมีมาตรฐาน คุณภาพทัดเทียมชาติที่เจริญ เป็นตัวอย่างให้เรามาปรับปรุงนั้น คงเกิดขึ้นได้ถ้าเมืองนั้น หรือประเทศนั้น มีคนที่เห็นความเป็นคนเท่ากัน ให้รู้ถึงความสำคัญของกันและกัน ใช้โมเดลของการบริการจัดการตัวเอง เพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเอง จะมาอ้างว่าหน่วยงานภาครัฐไม่มาช่วยเหลือไม่ได้ สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องตระหนักอย่างยิ่งยวด ถ้าจะยึดอาชีพบริการไว้คอยเลี้ยงชีพ. วสวัตติ์ โอดทวี
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แนะยกระดับแท็กซี่รับเออีซี – เออีซีกับม.หอการค้าไทย
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs