นายสุรพล เศวตเศรณี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้สั่งการให้สำนักงานท่องเที่ยวต่างประเทศทั่วโลก เร่งชี้แจงสถานการณ์ที่แท้จริง และเป็นปัจจุบันให้มากที่สุด ให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ เพื่อให้คลายความกังวลและสร้างความเชื่อมั่น โดยเฉพาะในตลาดที่อ่อนไหวอย่างนักท่องเที่ยวจีน ญี่ปุ่นและเกาหลี ที่กำชับให้ข้อมูลอย่างใกล้ชิด มั่นใจว่านักท่องเที่ยวจะไม่ลดต่ำไปกว่านี้อีกเพราะในช่วงโค้งสุดท้ายที่เหลือนี้ หลายหน่วยงานได้จัดกิจกรรมกระตุ้นการใช้จ่ายและกระตุ้นการท่องเที่ยว และถ้าการท่องเที่ยวในประเทศตื่นตัวมากยิ่งขึ้น ก็ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ททท.ยังได้ปรับรูปแบบของการโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวโดยหันมาเน้นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่ยังไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากนัก พร้อมกับการประชาสัมพันธ์ให้มากเพื่อสร้างแรงกระตุ้นด้านการท่องเที่ยว เช่น “หน้าหนาวเที่ยวภาคกลาง” ที่ได้นำแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนอาจมองข้ามไปเช่นสวนผึ้ง จ.ราชบุรี, สวนดอกไม้ จ.ลพบุรี รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวแม่น้ำลำคลอง ในจังหวัดใกล้ ๆ มาโปรโมทเชิญชวนนักท่องเที่ยวเป็นต้น ขณะเดียวกันททท.ยังได้เป็นผู้สนับสนุนในการจัดงานท่องเที่ยวในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปี 57 ใน 6 จังหวัดด้วยคือที่เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ, ภูเก็ต,เชียงราย, ขอนแก่น,พัทยา และหาดใหญ่ รวมทั้งยังมีงานใหญ่ของประเทศที่กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับทุกหน่วยงานจัดกิจกรรมพาเหรด 76 จังหวัด ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-31 ธ.ค.นี้ ที่ย่านราชประสงค์ไปจนถึงสนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งในงานนี้จะมีการนำศิลปะ วัฒนธรรมไทย รวมไปถึงผลิตภัณฑ์โอทอปที่เป็นสินค้าระดับแชมเปี้ยนหลากหลายมาให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้เลือกซื้อหา “การจัดงานอีเว้นท์ต่างๆในช่วงปีใหม่นี้ จะเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนักท่องเที่ยวไทยยังเดินทางท่องเที่ยวยังใช้จ่ายก็จะยิ่งช่วยสร้างความมั่นใจสบายใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากยิ่งขึ้นเพราะเท่ากับว่าเป็นการการันตีในการเดินทางท่องเที่ยวในไทย” ก่อนหน้านี้ ททท.ได้ปรับลดเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 56 ใหม่หลังจากสถานการณ์การเมืองเริ่มมีความรุนแรงเกิดขึ้นบ้าง แต่ไม่ยืดเยื้อมากนัก โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเหลือเพียง 25.75 ล้านคน จากเดิม 26.17 ล้านคน หรือลดลง 420,000 คน โดยมีรายได้ 1.158 ล้านล้านบาท หรือเติบโตที่ 17.77% จากเดิม 1.177 ล้านล้านบาท หรือรายได้หายไป 18,900 ล้านบาท ถือว่าได้รับผลกระทบไม่มากนักเพราะสุดท้ายแล้วนักท่องเที่ยวยังเติบโตได้ในระดับสองหลัก ทั้งนี้ ยอมรับว่าในเรื่องของการจองห้องพักล่วงหน้านั้นอาจมีผลกระทบบ้างหากเหตุการณ์ยังยืดเยื้อต่อไป เพราะเวลานี้นักท่องเที่ยวยังรอดูสถานการณ์ซึ่งจะเห็นได้ชัดในไตรมาสแรกของปี 57 หากยืดเยื้ออาจทำให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปเที่ยวที่อื่นแทน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในตลาดใกล้ ๆ
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ททท.เร่งจัดงานปีใหม่กระตุ้นท่องเที่ยว
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs