บีโอไอรับ พิษเศรษฐกิจโลกซบเซา ฉุดยอดลงทุนต่างชาติในไทยฟุบ เตรียมประชุมเร่งระดมแผนดึงต่างชาติลงทุนเพิ่ม
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า สถิติการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ในช่วง 9 เดือน มีผู้ยื่นขอรับส่งเสริม 853โครงการ ลดลง 19% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เงินลงทุนรวม 350,672 ล้านบาท ลดลง 19 % เช่นกัน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย โดยนักลงทุนจากญี่ปุ่น ยังเป็นกลุ่มทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดที่เข้ามาลงทุนในไทย ช่วง 9 เดือน มีโครงการลงทุนจากญี่ปุ่นยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 448 โครงการ ลดลง 23 % เงินลงทุน 211,350 ล้านบาท ลดลง 23% รองลงมาเป็นการลงทุนจากสหรัฐอเมริกา มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 44 โครงการ เพิ่มขึ้น 22 % เงินลงทุน 8,193 ล้านบาท ลดลง 49% นอกจากนี้ยังมีการลงทุนจากเนเธอร์แลนด์ 18 โครงการ ลดลง 31 % เงินลงทุน 10,926 ล้านบาท ลดลง 48% แต่ยังมีประเทศที่ขอการส่งเสริมการลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น เช่น มาเลเซีย 24 โครงการใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เงินลงทุน 18,316 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% การลงทุนจากจีน 31 โครงการ เพิ่มขึ้น 30% เงินลงทุน 37,705 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 267% “ช่วงกลางเดือนธ.ค. นี้ บีโอไอจะจัดประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนในต่างประเทศทั้ง 14 แห่งขึ้น เพื่อวางแผนชักจูงการลงทุนปี 57 ให้สอดคล้องกับการชักจูงการลงทุนท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่อาจจะอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่ยังมีกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ที่มีศักยภาพและความพร้อมออกไปลงทุนในต่างประเทศอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง” สำหรับภาพรวมปริมาณนักลงทุนยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน 9 เดือนมี 1,431 โครงการ ลดลง 6.3 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีเงินลงทุน 737,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น0.7 % โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนสูงสุด ได้แก่ กลุ่มบริการและสาธารณูปโภค 382 โครงการ เงินลงทุน 329,100 ล้านบาท รองมาเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง 320 โครงการ เงินลงทุน 200,500 ล้านบาท อันดับ 3 กลุ่มเกษตรกรรม และผลิตผลจากการเกษตร 276 โครงการ เงินลงทุน 93,600 ล้านบาท อันดับ4 กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า 227 โครงการ เงินลงทุน 46,000 ล้านบาท ตามด้วยกลุ่มเคมี กระดาษ 133 โครงการ เงินลงทุน 34,100 ล้านบาท “ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในปี 55 ที่ผ่านมา มีมูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์ 1.4 ล้านล้านบาท จึงส่งผลให้สถิติขอรับส่งเสริมในปีนี้ลดลง โดยยอดขอรับส่งเสริมตลอด 3 ไตรมาสซึ่งสูงกว่า 700,000 ล้านบาท ถือว่าสูงกว่ายอดขอรับส่งเสริมในหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งปกติจะมียอดขอรับส่งเสริมการลงทุนเพียง 600,000-700,000 ล้านบาทเท่านั้น สำหรับในช่วงไตรมาสสุดท้าย ยังมั่นใจว่ายอดขอรับส่งเสริมการลงทุนตลอดทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1 ล้านล้านบาทได้อย่างแน่นอน”
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ยอดลงทุนบีโอไอดิ่งตามเศรษฐกิจโลก
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs