เอเอ็มดี เผยการเมืองกระทบตลาด ฉุดยอดไอทีรัฐชะลอตัว พร้อมปรับแผนธุรกิจรุกต่างจังหวัดเน้นซีพียูสำหรับพีซีคุณภาพสูงเจาะกลุ่มเกมเมอร์และอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ นายจักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอเอ็มดี ฟาร์อีสต์ จำกัด เปิดเผยว่า แม้ไทยจะยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูงในภูมิภาคอินโดจีน แต่ยอมรับว่าสถานการณ์ทางการเมืองมีผลทำให้ตลาดไอทีภาครัฐชะลอตัว ซึ่งทำให้ตลาดพีซีและโน้ตบุ๊คซึ่งปกติซบเซาอยู่แล้วจากกระแสการใช้งานสมาร์ทโฟนและแทบเล็ต ยิ่งได้รับกระทบมากขึ้น เนื่องจากภาครัฐถือเป็นตลาดสำคัญของพีซีในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ดีพบว่าแนวโน้มการใช้งานพีซีของผู้บริโภคทั่วไปนั้นสนใจในพีซีสมรรถนะสูงหรือประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้น ทำให้ปัจจุบันราคาเฉลี่ยพีซีตั้งโต๊ะอยู่ที่ประมาณ13,900 -14,900 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับระดับราคาเฉลี่ยของโน้ตบุ๊ค โดยเมื่อปีที่ผ่านมาตลาดรวมโน้ตบุ๊คลดลงกว่า 20% ขณะที่ตลาดพีซีลดลงจนเริ่มนิ่ง แต่ยังมีการเติบโตในกลุ่มตลาดพีซีประสิทธิภาพสูงสำหรับเกมเมอร์ และพีซีภาครัฐ รวมถึงตลาดพีซีออลอินวัน ทั้งนี้เอเอ็มดี ประเทศไทยเมื่อไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา มีส่วนแบ่งซีพียูในตลาดพีซีตั้งโต๊ะประมาณ25% ส่วนตลาดการ์ดจอ มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ40-50% สำหรับทิศทางธุรกิจในปีนี้ เอเอ็มดีจะเน้นการนำเสนอสินค้าประสิทธิภาพสูงมากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและเกมเมอร์ ที่ยังมีการเติบโตสูง โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด นอกจากนี้จะมีความร่วมมือกับคู่ค้าจัดกิจกรรมสร้างตลาดใหม่ ๆ รวมถึงสร้างจุดทดลองสินค้าหน้าร้านกว่า 200 แห่งอีกด้วย ล่าสุดเพื่อเจาะตลาดพีซีประสทธิภาพสูงและตลาดเกมเมอร์ เอเอ็มดีได้เปิดตัว“คาเวอรี เอพียู” (Kaveri APU)หรือซีพียูที่รวมกราฟฟิกการ์ดรุ่นใหม่ล่าสุด เพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้เอเอ็มดีมีส่วนแบ่งตลาดของซีพียู ในพีซีแบบตั้งโต๊ะเพิ่มขึ้นเป็น30%ได้ในปีนี้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “เอเอ็มดี”ลุยตลาดซีพียูระดับไฮเอ็นท์ เจาะกลุ่มเกมเมอร์หลังไอทีรัฐชะลอตัว

Posts related