ประชุมกนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ 6 ต่อ 0 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ต่อปี เนื่องจากมีความเสี่ยงจากการเจรจาปรับเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินโลก รวมถึงเศรษฐกิจไทย
เมื่อวันที่ 16 ต.ค.นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมกนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ 6 ต่อ 0 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ต่อปี เนื่องจากมีความเสี่ยงจากการเจรจาปรับเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินโลก รวมถึงเศรษฐกิจไทย แต่ธปท.มั่นใจว่ามีเครื่องมือทางการเงินที่พร้อมรับมือความผันผวนหากเกิดวิกฤตการเงินในสหรัฐฯ ซึ่งมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนนโยบายและดูแลสภาพคล่องในตลาดเงินบาท ตลาดเงินดอลลาร์ ความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้าย รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนต่างๆได้
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยมีอัตราการเติบโตช้ากว่าที่คาดไว้แต่เริ่มทรงตัว และเห็นสัญญาณปรับดีขึ้นในบางภาค เช่นการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัวจากเศรษฐกิจโลก แต่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังทรงตัว โดยระยะต่อไปเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ ภายใต้ภาวะการเงินในปัจจุบันที่ยังผ่อนปรน แต่ยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้ง ความล่าช้าการเบิกจ่ายโครงการลงทุนของภาครัฐ ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง แต่ ธปท.ยังคงมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อดังกล่าวจะไม่หลุดต่ำลงกว่ากรอบเป้าหมายที่วางไว้ 0.5%
“กนง.ได้พิจารณาการปรับลดเป้าหมายตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ใหม่ ทั้งอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และการส่งออก ซึ่งแถลงข้อมูลปรับลดทั้งหมดในวันที่ 25 ต.ค.นี้ โดยสาเหตุหลักมาจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก มีระดับที่สูงขึ้นจากปัญหาทางด้านการเงินการคลังของสหรัฐฯ ปัจจัยความเสี่ยงภายในประเทศในเรื่องการเบิกจายงบประมาณด้านการคลังที่ล่าช้า ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต”
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังพิจารณาปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงินของไทย เช่นการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ภาระหนี้ครัวเรือนที่ขณะนี้อยู่ในทิศทางที่ชะลอลง รวมถึงการขาดดุลของรัฐบาล โดยเฉพาะจากภาระการรับจำนำข้าวที่แม้จะไม่ได้พิจารณาเฉพาะเจาะจง แต่ได้หารือกัน เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มให้ความสนใจ เพราะเป็นปัจจัยโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจในประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยนักลงทุนมองว่าฐานะการคลังในระยะข้างหน้าอาจมีความเปราะบาง
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่2.50%ต่อปี
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs