วันนี้ (24 ก.พ.) นายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการปี56 มีกำไรสุทธิ รวมรายได้จากสัญญาสัมปทาน 4,128 ล้านบาท ลดลง 62% เมื่อเทียบกับปี55 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 10,874 ล้านบาท โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้กำไรสุทธิปี 56 ลดลง เกิดจากการด้อยค่าสินทรัพย์ตามสัญญาร่วมการงานเพิ่มขึ้น 87.9% คิดเป็นมูลค่า 14,728 ล้านบาท และกรณีไม่รวมรายได้จากสัญญาสัมปทานจะขาดทุน 13,993 ล้านบาท โดยขาดทุนเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับปี 55สำหรับเป้าหมายปี57 ตั้งเป้ารายได้ 31,744 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อน 10% ซึ่งการเติบโตสำคัญจากบริการ 3จี ที่คาดว่าจะมีรายได้ 2,992 ล้าน และรายได้จากบริการเดิมโทรศัพท์ประจำปี บรอดแบนด์ และมัลติมีเดีย และรายได้เพิ่มอีกจำนวน 5,873 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากการประมูลงาน USO ของ กสทช. ตามแผนงานสร้าง Wi-Fi รองรับการเรียนการสอนด้วย Tablet และแผนงานขยาย FTTx 120,000 พอร์ต โดยในปี57 คาดว่า ทีโอที จะขาดทุน 5,000 ล้านบาท เนื่องจากพ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ทำให้ ทีโอที ไม่มีรายได้จากค่าสัมปทาน แต่หากทำได้ตามแผนจะขาดทุนปี57 เพียงปีเดียว ทั้งนี้ แผนการลงทุนตามแผนฟื้นฟู ทีโอที จะมีการลงทุนในโครงการที่มีโอกาสทางการตลาดและสร้างรายได้ให้กับ ทีโอที ระยะยาว 3 โครงการใหญ่ ซึ่งจะต้องรออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีก่อน ประกอบด้วยโครงการบรอดแบนด์ความเร็วสูง จำนวน 2 ล้านพอร์ท มูลค่าประมาณ 32,000 ล้านบาท โครงการลงทุนระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศเพื่อรองรับบริการอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ มูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท และ โครงการสร้างโครงข่ายอัจฉริยะ (NGN) มูลค่าประมาณ 2,800 ล้านบาทสำหรับทิศทางการประกอบธุรกิจของ ทีโอที ในปี 57 มุ่งที่การพัฒนารูปแบบการทำธุรกิจ หาธุรกิจใหม่ๆ หาช่องทางใหม่ๆ ที่จะสร้างรายได้มาทดแทนที่หายไป พร้อมกับการหาพันธมิตรที่จะมาเสริมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยธุรกิจที่ ทีโอที เร่งดำเนินการทั้งในด้านการปรับกลยุทธ์การตลาดรวมถึงการหาพันธมิตรทำธุรกิจร่วมกัน มีอยู่ 4 ธุรกิจใหญ่ คือ ทีโิที 3จี เฟส 1ที่ปัจจุบัน ติดตั้งครบทั้ง 5,320 สถานีแล้ว และมีลูกค้าประมาณ 3 แสนกว่าราย สำหรับเฟส 2 อยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มพาร์ทเนอร์ในการใช้สถานีฐานร่วมกัน โดยการตลาดจะเน้นรูปแบบเอ็มวีเอ็นโอเป็นหลักส่วนธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) ทีโอที ได้มีการปรับแผนการทำตลาดใหม่ ด้วยการย้ายลูกค้าระดับพรีเมียมจำนวนประมาณ 4.2 แสนรายไปใช้บริการบนโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติก ที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงถึง 100 Mbps. เพื่อรองรับบริการควอตเพลย์ในอนาคต การร่วมกับพันธมิตรตามโครงการ Internet Co-service นอกจากนี้ ยังทีธุรกิจด้าน Content&Application โดยทีโอที และพันธมิตรมีโครงการที่จะพัฒนาธุรกิจ Movie Store ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่รองรับการใช้บริการของลูกค้าบรอดแบนด์ ลูกค้า Wireline Wireless และโมบาย 3จี
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ทีโอที หวัง 3 จี สร้างรายได้ปีนี้เกือบ 3 พันล.
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs