รายงานข่าวจาก บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จากกลุ่มตัวอย่าง 500 ราย ที่มีอายุ 16-65 ปี พบว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้คาดว่าจะมีเงินสะพัด 22,000 ล้านบาท ลดลง 13.7% เมี่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 ปี แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสังสรรค์อาหารและเครื่องดื่ม 8,000 ล้านบาท ช้อปปิ้ง 6,400 ล้านบาท ค่าที่พัก/เดินทาง 4,600 ล้านบาท ทำบุญ 2,900 ล้านบาท และอื่นๆ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ซื้ออุปกรณ์เล่นน้ำ 100 ล้านบาทสำหรับ สาเหตุที่ประชาชนในกรุงเทพฯ ระมัดระวังในการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ กลุ่มตัวอย่าง 85% ระบุว่า ค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ทั้งในส่วนของราคาอาหารคและพลังงาน เป็นปัจจัยกดดันในการใช้จ่ายใช้สอย โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่มีอายุ 25-50 ปี เนื่องจากส่วนใหญ่มีระดับรายได้เท่าเดิม เงินออมเท่าเดิม แต่ภาระรายจ่ายเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มตัวอย่าง 30.4% ระบุว่า สถานการณ์การเมืองที่ยืดเยื้อและไม่ชัดเจน ส่งผลให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายคิดเป็น 46% เกิดความยากลำบากในการเดินทาง 35% และไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 19%อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจยังพบว่า กลุ่มตัวอย่าง 83.6% ระบุว่า มหกรรมลดราคาสินค้าของผู้ประกอบการ จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้ามากขึ้น รองลงมาคือ การลุ้นชิงโชคแจกของรางวัล เช่น บ้าน รถยนต์ คิดเป็น 74% และใช้ใบเสร็จซื้อสินค้าแลกรับของรางวัลทันที 61.8% ในขณะที่ช่องทางในการทำโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับกิจกรรมส่งเสริมการขาย พบว่า สื่อโทรทัศน์ช่องฟรีทีวี/เคเบิ้ลทีวี ยังเป็นช่องทางที่คนกรุงเทพฯสามารถเข้าถึงข้อมูลและรับรู้ข่าวสารได้มากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 80.2% รองลงมาคือการทำตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค 42.2% และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ 33.2%“สงกรานต์ปีนี้อาจไม่สดใสมากนัก เพราะบรรยากาศทางการเมืองที่ยืดเยื้อ ที่คาดว่าจะลากยาวต่อเนื่องไปถึงช่วงสงกรานต์ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง จากแรงกดดันด้านค่าครองชีพและภาระหนี้สิ้นต่างๆ โดยจากการสำรวจยังพบว่า คนกรุงเทพฯกว่า 31% ยังไม่มีการวางแผนทำกิจกรรมใดใด ซึ่งสะท้อนว่ากำลังซื้ออาจซบเซากว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ดังนั้นผู้ประกอบการต่างๆจึงต้องเร่งออกกลยุทธ์และการทำโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการในการประคับประคองยอดขายในช่วงนี้ไปได้”
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สงกรานต์คาดเงินสะพัด 22,000 ล้านบาท
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs