เมื่อลมร้อนมาถึง…ก็ไม่พลาด ที่สินค้าดับร้อนต่าง ๆ จะเร่งโกยรายได้ โดยเฉพาะเครื่องดื่มดับกระหาย ทั้งน้ำดำ น้ำสี ที่อยู่คู่เมืองร้อนในสังคมไทยมายาวนาน ด้วยมูลค่าการตลาดมากกว่า 44,000 ล้านบาท จึงไม่แปลกที่ทุกค่ายงัดเอากลยุทธ์กระตุกยอดขายกันคึกคัก ด้วยภาวะเศรษฐกิจช่วงนี้ ที่ค่อนข้างชะลอตัวจากหลายปัจจัย ทำให้กำลังซื้อของชาวไทยลดน้อยลง จึงได้เห็นหลายธุรกิจรีบปรับตัวจัดโปรโมชั่น ดึงเงินในกระเป๋ากันตั้งแต่เนิ่น ๆ สำหรับตลาดน้ำอัดลมปีนี้ ที่เห็นชัดเจนคงหนีไม่พ้น… กลยุทธ์ ไซซ์ซิ่ง หรือการออกผลิตภัณฑ์ขนาดต่าง ๆ สร้างสีสันให้กับวงการ เริ่มต้นด้วยปลายปีก่อน ที่ “เป๊ปซี่” เปิดตัวกระป๋องสลิม 245 มล. ในราคา 12 บาท ไม่นาน “โค้ก” ก็ส่งทั้งโค้ก และสไปรท์กระป๋องสลิม 240 มล. ด้วยราคาเพียง 10 บาท ออกมาสู้ แต่ก็ถูกสวนด้วย เป๊ปซี่เทน ขวดพลาสติกพีอีที 345 มล. 10 บาทเช่นกัน มาเจาะกลุ่มร้านอาหาร อุดช่องว่าง “ขวดแก้ว” ที่เป็นจุดอ่อน เพราะโรงงานไม่ผลิต ส่งผลให้ขณะนี้ แม้จะไม่มีขวดแก้ว แต่เป๊ปซี่ก็มีบรรจุภัณฑ์หลากหลายให้เลือกตามความต้องการถึง 7 แบบ ไล่ตั้งแต่ กระป๋องสลิม 245 มล. 12 บาท ขวดพีอีที ได้แก่ เป๊ปซี่เทน 345 มล. 10 บาท, 410 มล., 445 มล., 550 มล., 1 ลิตร และ 1.45 ลิตร เพื่อหวังจะบรรลุเป้าหมาย กระตุ้นยอดขาย และทวงแชมป์เจ้าตลาดน้ำดำคืนมาให้ได้ภายใน 2 ปี ขณะที่ “โค้ก” เริ่มเดินเกมตามเป๊ปซี่ หลังพบว่า ขวดรูปแบบสลีค โดนใจวัยโจ๋ โดย “คอนสแตนตินอส เดลิอาลิส” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ยอมเทหน้าตัก 70 ล้านบาท เร่งเปิดตัว โค้กสลีค ออกสู่ตลาดด้วย แถมตั้งราคาขายต่ำกว่าคู่แข่ง ตามด้วยกระป๋องสลิม 325 มล. ที่ปรับกระป๋องรูปทรงอ้วนท้วนดั้งเดิม เป็นทรงสูง พร้อมเรียกชื่อใหม่เก๋ไก๋สไลเดอร์ ก่อนลุยอัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์รุกตลาดหน้าร้อนเต็มสูบ โดยเฉพาะ แคมเปญ “ต้องกล้า ต้องซ่า ส่งโค้กให้” ที่เรียกเสียงฮือฮาได้มาก มองให้ลึกลงไป จะเห็นว่า มวยคู่นี้เป็นศึกศักดิ์ศรี! ที่ชิงแชมป์แห่งวงการน้ำดำ ซึ่งเป๊ปซี่ทุ่มหมดหน้าตัก หวังดึงส่วนแบ่งทางการตลาดกลับมาให้ได้ จากปัจจุบันที่เหลือเพียง 30% ขณะที่โค้กแย่งได้ไปจนมีสัดส่วนเกือบ 50% แล้ว แต่งานนี้ยอมรับว่า โค้กก็หืดขึ้นคอพอสมควร กับการยื้อตำแหน่งที่รอคอยมานานถึง 58 ปี ด้าน “เอส” น้ำดำ สัญชาติไทย ที่ปลุกปั้นโดยบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีประสบการณ์มาก่อนแล้วกับ อดีตเจ้าตลาดอย่าง “เป๊ปซี่” ทำให้มีต้นทุนที่ดี โดยเฉพาะช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ รวมถึงรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ที่ครบครัน ทั้งขวดแก้ว ขวดพีอีที และกระป๋องขนาดต่าง ๆ จึงจัดเต็มสินค้าได้ตามความต้องการของลูกค้า ปิดตายจุดด้อยของเป๊ปซี่!! ดังนั้นสิ่งเดียวที่ต้องทำในเวลานี้…คือทำอย่างไร? ให้เอสเข้าไปอยู่ในใจคนไทย ที่ต่างชื่นชอบน้ำดำกันจนหมดใจให้ได้! เอส…จึงเลือกใช้กลยุทธ์ที่ต่างออกไป ด้วยการสร้างความรับรู้ของแบรนด์ เพื่อให้ลูกค้าไว้ใจ โดยใช้ “สปอร์ตมาร์เกตติ้ง” นำ เพื่อให้เข้าลึกถึงกลางใจกลุ่มเป้าหมายได้เร็ว เห็นได้จากกิจกรรมต่าง ๆ ที่เอส ทุ่มงบไม่อั้น ตั้งแต่ลงนามสนับสนุนทีมพรีเมียร์ลีกชื่อดัง “แมนเชสเตอร์ ซิตี” เพื่อยกระดับแบรนด์เอส ผ่านทีมบอลระดับโลก เป็นกลยุทธ์นำร่อง ก่อนเปิดกิจกรรมบอลโลก ที่ฟันธงได้ว่าหวือหวาไม่แพ้ใคร!! แม้ต้องเสียเงินมาก แต่ก็ถือว่าคุ้ม เพราะใช้เวลาแค่ 1 ปี เอสแย่งส่วนแบ่งทางตลาดได้แล้วเกือบ 20% แต่การจะขึ้นเป็นแชมป์นั้น ยังต้องข้ามเจ้าตลาด 2 รายที่หินสุด ๆ จึงต้องออกแรงมาก และใช้เวลาอีกไม่น้อย ด้าน “บิ๊กโคล่า” แม้มีดีกรีน้อยกว่าเพื่อน ในแง่ของมูลค่าแบรนด์ แต่ถ้าตลาดต่างจังหวัดแล้ว บิ๊กโคล่า! ยิ่งกว่าแชมป์ ด้วยกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง ทำตลาดภูมิภาค ด้วยราคาถูกกว่า ตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เลือกซื้อสินค้าด้วยราคามากกว่าชื่อเสียงของแบรนด์ ทำให้บิ๊กโคล่าเข้าไปนั่งในใจชาวภูธรได้ไม่ยาก กลยุทธ์ของบิ๊กโคล่านั้น เน้นการทำราคา รวมถึงการส่งชิงรางวัลเที่ยวต่างประเทศ เจาะกลุ่มภูธรเป็นหลัก จึงยังไม่ค่อยเห็นการแข่งขันที่โดนเด่นในสมรภูมิครั้งนี้ แต่คงต้องรอดูว่าหลังจากนี้บิ๊กโคล่า จะเบนเข็มเข้ามาสู้ศึกเมืองกรุงอย่างไร? เพราะหากจะลงแข่งขันจริง คงต้องใช้เงินมหาศาลสู้กับยักษ์ใหญ่ “ชลิต ลิมปนะเวช” อุปนายกฝ่ายวิชาการ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย มองว่า ฤดูร้อนปีนี้ แต่ละค่ายจะแข่งกันงัดกลยุทธ์ดึงดูดลูกค้าในภาวะเศรษฐกิจฝืด โดยใช้ “ราคา” เป็นตัวนำ เรียกยอดขาย ขณะที่ปัจจัยบอลโลกที่ปกติจะหนุนให้ตลาดน้ำดำโตได้ดี แต่อาจไม่ช่วยให้ตลาดคึกคักเหมือนเดิมได้ เนื่องจากการรับชมการถ่ายทอดฟุตบอลโลกยากขึ้น เพราะต้องติดกล่องสัญญาณเฉพาะและจ่ายเงินเพิ่มเติม ทำให้กระแสไม่แรงเท่าทุกครั้ง ประกอบกับผู้ประกอบการมองว่ากำลังซื้อลดลง การจัดแคมเปญมากเกินไป ก็กู้ยอดขายกลับมาไม่ได้ กลายเป็น ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เปล่า ๆ. พิชชาพร อยู่เลี้ยงพันธ์
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ค่ายน้ำดำระเบิดศึกหน้าร้อน งัดกลยุทธ์ไซซ์ซิ่งดูดลูกค้า
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs