ในยุคที่การตลาดเข้ามามีอิทธิพลต่อผู้บริโภคคือความต้องการซื้อและความต้องการขายที่เกิดจากภาพลักษณ์ความปรารถนาด้วยการสร้างอารมณ์ ความหวัง และความฝันอันส่งผลให้เกิดการบริโภคอันเป็นการสร้างอุปสงค์ ไม่เว้นแม้แต่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการวาดฝันในโครงการต่าง ๆ ไว้อย่างสวยงาม แต่บางครั้งภาพเหล่านั้นอาจเป็นแค่ภาพลวงตาผู้บริโภคโดยไม่รู้ตัวหนึ่งในปัญหาเรื่องร้องเรียนที่เข้ามายัง สคบ.จำนวนมากติดอันดับคือเรื่องเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ที่ผู้บริโภค ส่วนใหญ่จะร้องเรียนเข้ามาในกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมในลักษณะที่มีการโฆษณาแล้วไม่เป็นไปตามที่โฆษณาเมื่อได้มีการซื้อและทำสัญญากับบริษัทแล้ว เช่น ไม่มีพื้นที่ส่วนกลางหรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีก็ไม่ใช่แบบเดียวกับที่โฆษณาไว้ หรือโฆษณาว่าจะมีสระว่ายน้ำใหญ่ก็กลับไม่มี ซึ่งหากผู้บริโภคพบเจอปัญหาดังกล่าวจึงควรดำเนินการจะมีทางออกอย่างไรได้บ้าง สิ่งแรก เมื่อผู้บริโภคได้ตัดสินใจซื้อบ้านแล้วควรให้ความสำคัญ และระมัดระวังในเรื่องเอกสารสัญญาต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มซื้อโครงการใบเสร็จรับเงิน ไปจนถึงการเซ็นสัญญาจะซื้อจะขาย รวมถึงต้องเก็บเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขาย ทั้งโบรชัวร์โครงการที่มีข้อความโฆษณาต่าง ๆ ใบเสร็จรับเงิน สัญญาจะซื้อจะขาย เพราะจะเป็นหลักฐานสำคัญที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่า โครงการได้ทำตามคำโฆษณาหรือไม่เนื่อง จากข้อความที่ระบุไว้ในโบรชัวร์ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค หากผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนหรือความเสียหายหรือถูกละเมิดสิทธิ หรือถูกเอารัดเอาเปรียบ จาก การโฆษณาแล้วไม่เป็นไปตามที่โฆษณาเมื่อได้มีการซื้อและทำสัญญา หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทำสัญญาก็ให้ดำเนินการเตรียมเอกสาร คือ บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวข้าราชการ ทะเบียนบ้านผู้ร้องเรียน หนังสือจอง สัญญาจอง สัญญาจะซื้อจะขาย เอกสารโฆษณาต่าง ๆ ภาพถ่าย (ถ้ามี) ใบเสร็จรับเงินหรือเอกสารรับเงินเรียงลำดับการชำระเงินดาวน์ หนังสือ หรือจดหมายโต้ตอบระหว่างผู้ร้องเรียนกับโครงการเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน สำเนาหนังสือรับรองทะเบียนนิติบุคคล โดยยื่นเรื่องร้องเรียนได้ที่ สคบ.หรือคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด และเมื่อ สคบ. ได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้บริโภคและพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนพร้อมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว หากเห็นว่าทั้งสองฝ่ายน่าจะเจรจาตกลงกันได้ สคบ.จะทำหน้าที่ช่วยไกล่เกลี่ยแต่ถ้าตกลงกันไม่ได้เรื่องร้องเรียนจะถูกส่งให้คณะกรรมการในแต่ละชุดที่ทำหน้าพิจารณาตามข้อกฎหมายในแต่ละเรื่อง เช่น คณะกรรมการว่าด้วยสัญญา คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณาเป็นผู้พิจารณาความผิดของเจ้าของโครงการและส่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคพิจารณาข้อเท็จจริง ถ้าคณะกรรมการเห็นว่าผู้ซื้อถูกเจ้าของโครงการละเมิดสิทธิการดำเนินคดีจะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคโดยส่วนรวมคณะกรรมการจะมีมติให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคดำเนินคดีแพ่งหรืออาญากับเจ้าของโครงการนั้นแทนผู้ซื้อบ้านต่อไป.
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ซื้อบ้านไม่เป็นไปตามโฆษณาต้องทำอย่างไร – ไขปัญหาผู้บริโภค
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs