นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัทบุหรี่ต่างประเทศได้ปรับราคาขายปลีกบุหรี่ซองละ 1-2 บาท สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องแจ้งให้กรมสรรพสามิตรับทราบแต่อย่างใด เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ยกเลิกประกาศราคาขายปลีกบุหรี่ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้บริษัทต่าง ๆ สามารถปรับขึ้นราคาขายปลีกได้เอง ตามเหตุผลต่าง ๆ อาทิ ต้นทุนการผลิต การขนส่ง เป็นต้น แต่การดำเนินการทั้งหมดคงต้องเป็นไปอย่างเหมาะสมด้วยทั้งนี้ หลังจากที่บริษัทบุหรี่ต่างประเทศมีการปรับขึ้นราคาขายปลีกดังกล่าวแล้ว คงเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่ต้องส่งเจ้าหน้าที่ เพื่อที่จะเข้าไปดูและตรวจสอบในเรื่องการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) โดยเฉพาะเก็บภาษีจากราคาขายปลีกที่เพิ่มขึ้น ให้เป็นไปตามหลักการที่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดไว้“การปรับขึ้นราคาขายปลีกบุหรี่นำเข้านั้น ขณะนี้คงไม่ต้องแจ้งให้กรมสรรพสามิตรับทราบแล้ว เพราะได้ยกเลิกประกาศไปแล้ว และบุหรี่นำเข้าต่าง ๆ ก็ได้มีการสำแดงราคานำเข้าที่ปัจจุบันได้เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบราคาสำแดงให้สะท้อนต้นทุนและความเป็นจริงมากที่สุดไปแล้ว ขณะที่บุหรี่ของไทยก็มีการเก็บภาษีจากราคาหน้าโรงงาน ทุกอย่างครอบคลุมหมดแล้ว ดังนั้นเมื่อมีการปรับขึ้นราคาขายปลีก ก็คงเป็นสรรพากรที่จะไปเก็บภาษีจากราคาขายปลีกที่เพิ่มขึ้น”รายงานข่าวจากบริษัทบุหรี่ต่างประเทศ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค.57 บริษัทบุหรี่ต่างประเทศ ได้ปรับขึ้นราคาขายปลีกบุหรี่เพิ่มขึ้นซองละ 1-2 บาท โดยการปรับขึ้นราคาขายปลีกดังกล่าวบริษัทฯ ได้มีการหารือกันมาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ได้มีการตรึงราคาขายไว้ก่อน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของผู้บริโภคผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการรณรงค์การเลิกสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่อง เพราะปัญหาการสูบบุหรี่นับเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งผู้สูบและผู้อยู่ใกล้ชิด ก่อให้เกิดโรคที่ก่ออันตรายคุกคามต่อชีวิต สถิติพบว่าประชากรโลก 6 ล้านคน ตายด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ เพราะสารต่าง ๆ ในบุหรี่ทำให้เกิดโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งปอด ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด ถุงลมโป่งพอง เส้นโลหิตแดงแข็งตัวและตีบ หลอดลมอักเสบเรื้อรัง มะเร็งไต มะเร็งริมฝีปาก และมะเร็งหลอดลม โดยสถิติของสำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมควบคุมโรค พบว่าคนไทยที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มีผู้สูบบุหรี่ทุกชนิดรวม 13 ล้านคน อัตราการสูบบุหรี่ของผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 20 เท่า มีนักสูบหน้าใหม่เกิดขึ้นราว 200,000-300,00 คนต่อปีนอกจากนี้ คนไทยเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ปีละประมาณ 52,000 คน เฉลี่ยวันละ 142 คน ชั่วโมงละ 6 คน โดยสูบบุหรี่จากโรงงานอย่างเดียวมากที่สุด 5.1 ล้านคน รองลงมาคือบุหรี่มวนเอง 4.7 ล้านคน ผู้ที่อยู่นอกเขตเทศบาลมากกว่าในเขต 1.4 เท่า ที่น่าเป็นห่วงคือผลสำรวจยังพบว่ามีคนไทยที่สูดควันบุหรี่มือสองในตลาดสดหรือตลาดนัดมากที่สุด 68.8% ในบ้าน 36% และที่ทำงาน 30.5%
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สรรพสามิตไฟเขียวขึ้นราคาบุหรี่นอก 1-2 บาท
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs