นายพนัส  ธีรวณิชย์กุล  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท กรุงเทพประกันภัย  จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทได้ปรับลดเป้าเบี้ยประกันปีนี้เหลือเพียง 5% คิดเป็นมูลค่า16,325  ล้านบาทจากเดิมตั้งไว้ว่าเติบโต 15% หรือมีมูลค่า 18,000 ล้านบาทเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะการเมืองอยู่ในช่วงที่ยังไม่มีความชัดเจนและไม่รู้จะยืดเยื้ออีกนานแค่ไหน  และถ้าในช่วงครึ่งปีหลังยังไม่มีการเมืองอาจทำให้การเติบโตเบี้ยประกันภัยไม่ถึง5%  อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเป้าหมายในการทำกำไรจากงานที่รับประกันภัยไว้เองประมาณ  1,000 ล้านบาทหรือเติบโต 10% “สาเหตุที่ลดเป้าลงเนื่องจากจีดีพีปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.5-2%การปรับขึ้นไปที่ 2% เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์ในปีนี้ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเนื่องจากไม่มีโครงการรถยนต์คันแรก สำหรับภาพรวมสินเชื่อของธนาคารมีการเติบโตที่ลดลงคาดทั้งปีน่าจะเหลือ 6-7% ส่วนดอกเบี้ยนโยบายปีนี้มีทิศทางปรับตัวลงเหลือ2% จากปัจจุบันอยู่ที่2.5%  ด้านราคาสินค้าเกษตรและการก่อสร้างได้ปรับตัวลดลง ขณะที่ประชาชนเริ่มวิตกภัยธรรมชาติมากขึ้นโดยเฉพาะแผ่นดินไหว” ทั้งนี้บริษัทมีแผนจะปรับเบี้ยประกันรถยนต์ประเภทซุปเปอร์คาร์หรือรถหรูและรถบรรทุกเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนค่าอะไหล่ยานยนต์และค่าซ่อมปรับตัวสูงขึ้นโดยอัตราเบี้ยจะเป็นเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับอัตราความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร  บริษัท กรุงเทพประกันภัย กล่าวว่า กำไรของบริษัทในปีนี้ ไม่น้อยกว่าปี 56  ถ้าไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น  โดยการทำกำไรขึ้นอยู่กับการจ่ายสินไหมว่ามากหรือน้อยส่วนเรื่องการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความไม่แน่นอนสูง  แต่หากมีการเลือกตั้ง สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็เชื่อว่าบรรยากาศการลงทุนน่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง  ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส1/57 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 3,897.0 ล้านบาท ลดลง 7.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา  โดยมีกำไรจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแล้วประมาณ420.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 623.4% รายได้สุทธิจากการลงทุน 337.2 ล้านบาท ลดลง16.8% กำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้736.9 ล้านบาท และเมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้วบริษัทมีกำไรสุทธิ 627.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.0% กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 5.89 บาท    

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กรุงเทพประกันภัยหั่นเป้าเหลือ5%

Posts related