ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงผลประชุมคณะกรรมการรักษาความสงบแห่งชาติ (สคช.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือเกษตรก รผู้ปลูกข้าวในฤดูกาลผลิต 57/58 เน้นการเพิ่มรายได้ ทั้งการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และเพิ่มมูลค่าข้าว โดยออกเป็นมาตรการหลัก และมาตรการเสริม 5 มาตรการ ใช้งบประมาณทั้งหมด 4,747 ล้านบาท ซึ่งมาตรการหลัก เป็นการลดต้นทุนปัจจัยการผลิตให้เกษตรกร ทั้งเมล็ดพันธ์ ค่าปุ๋ย ค่าบริการรถเกี่ยวข้าว และค่าเช่าที่นา ให้ลดลงไร่ละ 432 บาท จากต้นทุนรวมไร่ละ 4,787 บาทส่วนมาตรการเสริม มี 4 มาตรการ คือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกร 3% ต่อปี นาน 6เดือน วงเงินสินเชื่อไม่เกินรายละ 50,000 บาท ให้ธนาคารเพื่อการเกษรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปล่อยสินเชื่อให้สถาบันเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร 20,000 ล้านบาท ส่งเสริมการตลาดโดยให้กระทรวงพาณิชย์เร่งหาตลาดใหม่ช่วยเหลือผู้ประกอบการค้าข้าวเก็บสต๊อกข้าว โดยการชดเชยดอกเบี้ย เชื่อมโยงตลาดข้าวทั้งในและต่างประเทศ และการประกันยุ้งฉาง โดยให้ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อ 80% ของราคาตลาดเฉลี่ย เพื่อชะลอการขายข้าวเปลือก และประกันภัยนาข้าว ซึ่งเป็นมาตรการตามความสมัครใจของเกษตรกร คุ้มครองไร่ละ 1,111 บาท พื้นที่เป้าหมาย 1.5 ล้านไร โดยเกษตรกรจ่ายเบี้ยประกันไร่ละ 60-100 บาท และธ.ก.ส.สมทบไร่ละ 10 บาท หากประสบภัยจะได้ชดเชยถึงไร่ละ 2,224บาทขณะเดียวกันที่ประชุมคสช.ยังอนุมัติงบกลางฯของปีงบประมาณ 57 จำนวน 90 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการแก้ปัญหาเร่งด่วน เพื่อควบคุมและลดความสูญเสียของสินค้ากุ้งทะเล จากกลุ่มอาการตายด่วน โดยให้กรมประมงไปเร่งนำเข้าพ่อแม่พันธุ๋ ก่อนนำมาให้ผู้เลี้ยงกุ้งให้เสร็จภายใน 3 เดือนจากนี้ ด้านนายวิทูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่าที่ประชุมคสช.ได้เห็นชอบให้ช่วยเหลือชาวไร่อ้อย โดยกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายของฤดูการผลิตปี 55/56 ที่ 999.20 บาทต่อตันอ้อยที่ความหวาน 10 ซีซีเอส ขณะเดียวกัน ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือพิเศษเพื่อเพิ่มค่าอ้อยในฤดูกาลดังกล่าวอีก 160 บาทต่อตันอ้อย จากเดิมที่ประกาศไว้ 900 บาทต่อตันอ้อย ทำให้เกษตรกรกว่า 300,000 คนจะได้รับเงิน1,060 บาทต่อตันอ้อย โดยเงินส่วนเพิ่มนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม จะกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ในวงเงิน 16,000 ล้านบาท

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : คสช.คลอดแพ็กเก็จช่วยเกษตรกร

Posts related