รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการช่วยเหลือ เพื่อการปรับตัวของภาคการผลิต และภาคบริการ ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า (กองทุนเอฟทีเอ) ได้อนุมัติความช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้ง ในพื้นที่ภาคเหนือ ในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง น่าน พะเยา อุตรดิตถ์ สุโขทัย และพิษณุโลก เพื่อให้สามารถปรับตัวสู้กับการเปิดเสรีทางการค้าในกรอบต่าง ๆ เนื่องจากการเปิดเสรี ทำให้มีน้ำผึ้งจากต่างประเทศเข้ามามากขึ้น และน้ำผึ้ง ที่นำเข้าบางประเทศ เป็นน้ำผึ้งคุณภาพต่ำ หรือผู้นำเข้าบางรายนำมาปลอมปนกับน้ำผึ้งไทย ซึ่งเป็นน้ำผึ้งบริสุทธิ์ 100% แล้วส่งไปขายต่อยังต่างประเทศในยุโรปและอเมริกา ทำให้ภาพลักษณ์ของน้ำผึ้งไทยเสียหาย และถูกมองว่าเป็นประเทศผู้ฟอกน้ำผึ้ง“คู่แข่งที่สำคัญในการส่งออกน้ำผึ้งเช่น จีน อาเซียน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งการเปิดเสรีการค้าในกรอบต่าง ๆ ทำให้บางประเทศได้มีการปรับลดภาษีนำเข้าลงมาเหลือ 0%แล้ว และบางประเทศจะลดเหลือ 0%ในปี 58 ดังนั้นไทยจำเป็นต้องการเร่งเริ่มศักยภาพเกษตรกรไทย ให้มีศักยภาพในการแข่งขันและรับมือกับการเข้ามาของน้ำผึ้งต่างประเทศ”นายพิชัย คงพิทักษ์ อาจารย์ภาควิชากีฎวิทยาและโรคพืช คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้รับผิดชอบโครงการ กล่าวว่า กองทุนเอฟทีเอได้เข้ามาช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งของไทย โดยได้เข้าไปช่วยพัฒนากระบวนการเลี้ยงผึ้งแบบคอนโด และไม่ใช้สารเคมี เป็นการแยกการวางไข่ของผึ้งนางพญากับตัวอ่อน ทำให้น้ำผึ้งที่ออกมาเป็นน้ำผึ้งล้วน ๆ ไม่มีดักแด้ปนลงมาด้วย รวมทั้งให้มีระบบตรวจสอบย้อนกลับว่า น้ำผึ้งมาจากฟาร์มไหน เพื่อควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐาน“เมื่อพัฒนาผลผลิตน้ำผึ้งให้ได้มาตรฐานแล้ว ก็ได้ศึกษาค้นคว้าในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับน้ำผึ้งไทย โดยค้นคว้าสกัดเป็นน้ำผึ้งผง เพื่อนำไปใช้ในวงการอาหารและเครื่องสำอาง และพัฒนาต่อเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบต่าง ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น รังนกผสมน้ำผึ้งอาหารเสริม โลชั่น ครีมอาบน้ำผสมน้ำผึ้งซึ่งผลการนำสินค้าที่ได้รับการพัฒนาไปแสดงในงานสินค้าในต่างประเทศ เช่นเวียดนามและจีน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กองทุนเอฟทีเอช่วยผึ้งไทยรับมือเปิดเสรีการค้า

Posts related