นายปณิธานบำราศอรินทร์พ่ายผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานการจัดประชุม บริษัทเอ็น . ซี . ซี . เมเนจเม้นท์แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัดเปิดเผยถึงภาพรวมการจัดงานจำหน่ายสินค้าของขวัญและของแต่งบ้านไทยแลนด์เบสท์บาย 2013 ว่าปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองในปีนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้บริโภคในการออกมาจับจ่ายสินค้าโดยคาดว่าจะมีผู้เข้ามาร่วมงานน้อยกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อยหรือประมาณ 280,000 คนต่อวันจาก 280,000 คนและจะมีเงินสะพัด 400 ล้านบาทอย่างไรก็ดีมั่นใจว่าปัญหาเศรษฐกิจจะไม่ส่งผลต่อกำลังซื้อเนื่องจากสินค้าที่จำหน่ายมาจากผู้ผลิตโดยตรงทำให้มีราคาถูกกว่าสินค้าทั่วไป “คนไทยเริ่มจะชินกับปัญหาการเมืองที่ยื้อเยื้อมานานจึงไม่ตื่นตระหนกส่วนกำลังซื้อก็คิดว่าอาจจะมีผลบ้างซึ่งตอนแรกตั้งเป้าเงินสะพัดที่500ล้านบาทจึงต้องปรับลงเล็กน้อยแต่อย่างไรก็ตามจุดเด่นของงานคือสินค้าราคาถูกที่มอบส่วนลดกว่า 20-80%และยังมีไฮไลท์ใหม่คือสินค้าจากต่างประเทศทั้งจีนและเกาหลีเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าจึงเชื่อว่าจะดึงดูดให้คนมางานกันคึกคักแน่นอนทั้งนี้คาดว่ายอดการใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ5,000บาทเท่ากับปีก่อน”
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พิษม็อบไม่กระทบ คนแห่ซื้อของขวัญปลายปีคึก
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs
นายวิฑูรย์สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อขณะนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนชะลอการลงทุน ในระยะสั้น เพื่อรอดูความชัดเจน ซึ่งประเทศไทย มีจุดแข็งหลายด้านทั้งด้านภูมิศาสตร์ การขนส่งและคุณภาพของคนที่ยังมีความได้เปรียบหลายประเทศทำให้นักลงทุนยังมองไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนโดยกระทรวงฯยังดำเนินนโยบายที่เอื้อกับลงทุนให้แก่ภาคธุรกิจล่าสุดการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( กนอ .) ได้เปิดศูนย์บริการธุรกิจ ( ทีเอสซี ) ที่ยกระดับจากศูนย์บริการเบ็ดเสร็จครบวงจรที่กระจายอยู่ในทุกนิคมอุตสาหกรรมอยู่แล้วให้ครอบคลุมบริการนักลุงทุนทั้งก่อนระหว่าง และหลังการลงทุน นายวีระพงศ์ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการ กนอ . กล่าวว่าการบริการของศูนย์บริการธุรกิจทีเอสซีประกอบด้วย 4 ส่วนคือ ให้คำปรึกษาและอำนวยความสะดวกโดยส่วนนี้จะเป็นบริการสำหรับนักลงทุนรายใหม่และผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมซึ่งเป็นการให้คำปรึกษาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการตัดสินใจลงทุน , บริการฝึกอบรมที่บริการฝึกอบรมผู้ประกอบการด้านต่างๆเช่น ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศประหยัดพลังงานและการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและอบรมด้านอื่นๆที่เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบ 
นายยรรยงพวงราช รมช.พาณิชย์เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยและสมาคมเกษตรกรไทยว่าขณะนี้รัฐบาลมีงบประมาณในการจ่ายเงินให้กับชาวนาที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี56/57(รอบแรก)แล้ว 59,185ล้านบาทแบ่งเป็นเงินจากสำนักงบประมาณได้อนุมัติให้เกลี่ยงบฯกันไว้ในโครงการ26,809ล้านบาท เงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) 20,176ล้านบาท เงินจากการระบายข้าวในสต๊อกที่เตรียมคืนให้คลัง 6,000ล้านบาทและเงินที่ครม.ได้อนุมัติเพื่อชดเชยให้กระทรวงพาณิชย์ในการผลิตข้าวสารบรรจุถุงขายในโครงการธงฟ้าร้านถูกใจ การขายข้าวให้หน่วยงานต่างๆของรัฐ และข้าวบริจาค อีก6,200ล้านบาท “เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ชาวนาบางรายยังไม่ได้รับเงินตอนนี้มีเงินอยู่แล้วเกือบ60,000ล้านบาทที่จะนำมาจ่ายให้ชาวนาภายใน2สัปดาห์นี้หรืออย่างช้าก่อนปีใหม่ล่าสุด ธ.ก.ส.จ่ายเงินให้ชาวนาไปแล้วเพียง14,000ล้านบาทเท่านั้นส่วนโครงการนี้ ที่จะสิ้นสุดวันที่28ก.พ.57นั้น ยืนยันว่ารัฐบาลมีเงินเพียงพอใช้ดำเนินโครงการเพราะก่อนหน้านี้ ครม.ได้อนุมัติกรอบวงเงินรับจำนำรอบนี้แล้ว270,000ล้านบาทเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังที่จะต้องไปหาเงินก้อนนี้” ส่วนกรณีที่ธ.ก.ส.ระบุไม่มีเงินรับจำนำข้าวแล้วว่าไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพูดเพื่อสร้างความสับสนให้สังคมและชาวนา ทั้งๆ ที่เงินมีอยู่เพียงแต่ว่าจะเอาเงินก้อนใดมาใช้ก่อนหลังเท่านั้นแต่ธ.ก.ส.ไม่ยอมนำเงินสำรองมาใช้ก่อนอาจเพราะกังวลว่าจะกระทบฐานะของธ.ก.ส.ทั้งที่รัฐบาลมีเงินสำรองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามหาเงินมาให้ธ.ก.ส.อยู่แล้ว 
