shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

แบงก์ชาติแนะผู้ส่งออกปรับตัวเพิ่มศักยภาพการผลิต

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ประเทศไทยผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีที่ไม่สูงนัก ส่งผลให้การส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าประเทศที่เน้นส่งออกสินค้าที่ใช้ เทคโนโลยีสูงกว่า เช่น ประเทศเกาหลีใต้และไต้หวัน ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดโลกมากกว่า โดยสถานการณ์ดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงข้อจํากัดด้านศักยภาพการผลิตของ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทยที่ยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรักษาความ สามารถในการแข่งขันในฐานะการเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกได้ดีเพียงพอทั้งนี้ เศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวส่งผลให้การส่งออกของหลายประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียเหนือ ปรับดีขึ้นตั้งแต่ต้นไตรมาสที่สอง แต่การส่งออกของไทยยังไม่ได้รับอานิสงส์มากนัก ซึ่งสาเหตุสําคัญมาจากข้อจํากัดด้านโครงสร้างการผลิตของภาคอุตสาหกรรมส่งออก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความต้องการในตลาดโลก และเมื่อเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวเต็มที่ อาจทำให้การส่งออกของไทยไม่สามารถกลับมาขยายตัวสูงเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยเช่นในอดีตอีกต่อไป“ผลสำรวจของเวิล์ด อิโคโนมิก ฟอรั่ม เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ชี้ว่า ความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลงมากในสายตานักลงทุนต่างชาติ สะท้อนว่าไทยไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะดึงดูนักลงทุนให้ย้ายมาผลิตในประเทศ เพราะความไม่พร้อมด้านบุคคลากรที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ดังนั้น ไทยจำเป็นต้องยกระดับศักยภาพการผลิตของประเทศ ทั้งการเตรียมความพร้อมตลาดแรงงาน เทคโนโลยี นวัตกรรม การศึกษา โครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ซึ่งต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผล จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำไม่เช่นนั้นขีดความสามารถการผลิตของไทยจะห่างจากภูมิภาคมากขึ้น จนสุดท้ายจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว”อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไทยเป็นฐานการผลิตฮาร์ดดิสก์ (เอชดีดี) ของบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก แต่ขณะนี้ เอชดีดี เป็นสินค้าที่มีความต้องการลดลง เพราะผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงรสนิยมจากการใช้คอมพิวเตอร์ ที่มี เอชดีดี เป็นหน่วยความจําไปสู่สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ตแทน แม้ผู้ผลิตเอชดีดีรายใหญ่ของโลกพยายามรักษาความสามารถในการแข่งขัน โดยการเข้าซื้อและรวมทุนกับบริษัทผู้ผลิตเมมโมรี่ในการเก็บข้อมูล (เอสเอสดี) แต่ไม่มีแนวโน้มจะลงทุนผลิตเอสเอสดีในไทย เนื่องจากขาดการร่วมกลุ่ม เพื่อรองรับเพราะอุตสาหกรรม ทำให้ไทยไม่อยู่ในการผลิตของสินค้าไฮเทคเหล่านี้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แบงก์ชาติแนะผู้ส่งออกปรับตัวเพิ่มศักยภาพการผลิต

Posts related

 














เร่งออกใบรง.4ไม่เกิน2เดือน

นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองการพิจารณาการอนุญาตโรงงาน (รง.4) บางประเภทที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรม กำลังเร่งปรับปรุงขั้นตอนการอนุญาตให้รวดเร็ว และมีคุณภาพยิ่งขึ้น โดยจัดทำแนวทางปฏิบัติในการพิจารณาคำขอ รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าหากทำความเข้าใจขั้นตอน และเอกสารที่เกี่ยวข้องตรงกันแล้ว เชื่อว่า จะสามารถลดระยะเวลาในการออกใบ รง 4. ลงได้ 30 วัน เหลือ 60 วัน จากเดิมไม่เกิน 90 วัน “ ในเดือนพ.ย. นี้ จะเดินสายชี้แจงทำความเข้าใจกับภาคเอกชนและอุตสาหกรรมจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ ถึงขั้นตอนเกี่ยวกับการออกใบ รง.4 โดยจะเชิญสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ตลอดจนศูนย์ต่อต้านคอรัปชั่นเข้ารับฟัง โดยการเดินสายจะเริ่มที่ จ.นครสวรรค์ก่อน ตามด้วย จ.เชียงใหม่ สงขลา และชลบุรี แต่หากจังหวัดใดต้องการให้กระทรวงฯ จัดการบรรยายดังกล่าวสามารถติดต่อไปที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด(สอจ.)และสอท.ประจำจังหวัด โดยหากมีกรณีเร่งด่วนที่จำเป็นจะต้องได้ใบอนุญาตเร็ว ก็ให้แจ้งเรื่องเข้ามากระทรวงฯ จัดทีมเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาอำนวยความสะดวกเป็นรายกรณี”ส่วนการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ล่าสุด กรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) เสนอเรื่องเข้ามา 6 ราย ซึ่งได้พิจารณาอนุญาตทั้งสิ้น 3 ราย ได้แก่ บริษัท เพ็ท โฟกัส ประกอบกิจการทำอาหารผสมหรืออาหารสำเร็จรูปสำหรับสัตว์เลี้ยง เงินลงทุน 829 ล้านบาท จ้างแรงงาน 202 คน บริษัท ไฟฟ้าธรรมชาติ ประกอบกิจการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล กำลังการผลิต 6.5 เมกะวัตต์ เงินลงทุน 430 ล้านบาท จ้างแรงงาน 56 คน และ บริษัท ไทยศรีทอง จำกัด ประกอบกิจการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล กำลังการผลิต 7.5 เมกะวัตต์ เงินลงทุน 565 ล้านบาท จ้างแรงงาน 5 คน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เร่งออกใบรง.4ไม่เกิน2เดือน

สร้างศูนย์กระจายเหล็กรุกตลาดพม่า

นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ.อยู่ระหว่างศึกษาการตั้งศูนย์กระจายเหล็ก และวัสดุก่อสร้าง ในพื้นที่ชายแดนไทย – พม่า เพื่อรองรับความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างของประเทศพม่า ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา และสร้างประเทศ โดยเชื่อว่า พม่า ต้องนำเข้าเหล็ก และวัสดุก่อสร้างจากไทยเป็นหลัก หากไทย มีศูนย์กระจายสินค้าดังกล่าว จะสามารถสร้างโอกาสสินค้ากลุ่มนี้ในการขยายตัวได้มากขึ้น ส่วนความต้องการบริโภคเหล็กในไทยนั้น ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจุบันอยู่ที่ 13-14 ล้านตันต่อปี โดยเฉพาะหลังการเริ่มลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ที่จะทำให้เกิดความต้องการทั้งเหล็ก และวัสดุก่อสร้างมากขึ้น ทั้งจากโครงการรัฐและการลงทุนเกี่ยวเนื่องของภาคเอกชน โดยปัจจุบันความต้องการใช้เหล็กส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อสร้างรวมถึงอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนใหญ่เป็นนำเข้า เนื่องจากไทยยังมีจุดอ่อน เรื่องเหล็กต้นน้ำ เพราะการตั้งโรงถลุงเหล็กดำเนินการได้ยาก สำหรับปริมาณการนำเข้าเหล็กในช่วง 8 เดือน มีมูลค่าทั้งสิ้น 10,811.2 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 8.02% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 6.07% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด สศอ. อยู่ระหว่างติดตามการเข้ามาลงทุนในไทยของผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้านครัวเรือนแบรนด์หลักๆ ตอนนี้พบว่าในกลุ่มผู้ผลิตจากญี่ปุ่นได้มีการยกระดับผลิตภัณฑ์ไปสู่กลุ่มที่เทคโนโลยีสูงและมีนวัตกรรมและยังขยายการลงทุนเพิ่มเติม

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สร้างศูนย์กระจายเหล็กรุกตลาดพม่า

Page 1498 of 1552:« First« 1495 1496 1497 1498 1499 1500 1501 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file