shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

รัฐจับเข่าเอกชนเล็งเพิ่มมูลค่าสินค้าส่งออก

นายกรัฐมนตรี เล็งเชิญผู้ประกอบการแพคเกจจิ้งมารือรายสินค้า หวังสร้างมูลค่าเพิ่ม ประคองยอดส่งออกในช่วงเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัว
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในเร็ว ๆ นี้นายกรัฐมนตรีจะเชิญผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตบรรจุภัณฑ์ และหีบห่อสินค้า (แพคเกจจิ้ง) เข้ามาหารือเพื่อรับทราบสถานการณ์การดำเนินธุรกิจ และรับทราบแนวโน้มรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่น่าสนใจ ที่สามารถเติบโตได้ในอนาคต เพราะปัจจุบันไทยมีสินค้าหลายอย่างที่จำเป็นต้องพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจ และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้  ทั้งนี้ที่ผ่านมานายกฯ ได้เชิญผู้ประกอบการภาคเอกชนเข้ามาหารือถึงสถานการณ์ดำเนินธุรกิจแบบรายสินค้า เพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือ และรับทราบปัญหาอุปสรรค เพื่อแก้ปัญหาการส่งออกสินค้าของไทยที่ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก โดยล่าสุดได้เชิญกลุ่มผู้ประกอบการมาหารือแล้ว 3 สาขา คือ ด้านการท่องเที่ยว ธุรกิจเครื่องสำอาง และธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องปรับอากาศ  อย่างไรก็ตามในส่วนของธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าและอีเล็กทรอนิกส์นั้น เร็ว ๆ นี้ นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม จะเชิญผู้ประกอบการฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟในประเทศไทย 3 รายใหญ่ หารือเพื่อพิจารราแนวทางการช่วยเหลือ เพราะปัจจุบันอุตสาหกรรมดังกล่าวมีความต้องการลดลง ทำให้โรงงานผลิตในแต่ละประเทศมีกำลังการผลิตเหลือด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : รัฐจับเข่าเอกชนเล็งเพิ่มมูลค่าสินค้าส่งออก

Posts related

 














ชงรัฐปรับค่าจ้างไกด์มาตรฐาน

ชงรัฐปรับราคาค่าจ้างไกด์ให้เป็นมาตรฐาน หวังช่วยผลักดันเพิ่มไกด์มากขึ้นรวมถึงสร้างความเป็นมาตรฐาน
นายวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาคมฯ เตรียมเสนอให้รัฐบาลพิจารณาปรับค่าจ้างไกด์ขั้นต่ำเป็นวันละ 1,500 บาท เนื่องจากปัจจุบันไกด์ ได้รับค่าจ้างต่ำมากรวมถึงในบางตลาด แทบจะไม่มีค่าจ้างให้ไกด์เลย ทั้งนี้ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการที่ทำบริษัททัวร์ มักให้ไกด์แต่ละราย ได้ค่าจ้างเป็นค่านายหน้าจากการพาไปช้อปปิ้งแทน โดยจะเป็นมากในกลุ่มผู้ประกอบการที่ทำทัวร์ให้นักท่องเที่ยว จีน สิงคโปร์ อินโดนีเชีย เป็นต้น อย่างไรก็ตามหากปรับราคาได้ จะช่วยให้ไกด์ที่ได้รับการจ้าง กลายเป็นไกด์ที่มีคุณภาพมากขึ้นด้วย และกระตุ้นบุคคลากรให้หันมาทำอาชีพนี้ด้วย “ขณะนี้ดูเหมือนจะมีประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับค่าจ้างไกด์ถึงวันละ 3,000 บาท ส่วนประเทศอื่น ได้น้อยมาก อีกทั้งในบางราย ยังต้องเสียค่าตั๋วเครื่องเล่น ค่าทางด่วนต่าง ๆ ให้อีกด้วย การสร้างมาตรฐานที่แน่นอน น่าจะเป็นจุดสำคัญ ที่จะช่วยพัฒนาอาชีพไกด์ให้มีบุคคลากรที่อยากทำมากขึ้น ซึ่งก็จะช่วยแก้ปัญหาไกด์ขาดแคลนที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ด้วย” นอกจากนี้จากการที่รัฐบาลจีนประกาศควบคุมทัวร์คุณภาพ ทำให้ไกด์ได้รับอานิสสงค์เรื่องการได้ค่าจ้างตามไปด้วย เนื่องจากผู้ประกอบการจะต้องขายทัวร์พร้อมแพกเกจ และต้องระบุค่าใช้จ่ายที่แน่นอนลงไปด้วย ซึ่งจะรวมถึงค่าจ้างรายวันของไกด์ที่จ้างมา อีกทั้งยังระบุไม่ให้ไกด์นำนักท่องเที่ยวไปร้านช้อปปิ้งบางแห่งที่ทำการตกลงกันไว้แล้วเพื่อหากำไรจากค่าหัว นายวิโรจน์ กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลไม่ควรให้ความสำคัญกับคำว่าฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) นอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) มากนัก เพราะหากภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังใช้สองคำนี้ จะทำให้ ร้านอาหาร โรงแรม หรือแม้กระทั่งไกด์เสียผลประโยชน์ด้านราคาไปมากพอสมควรทั้ง ๆ ที่คุณภาพการบริการยังดีเหมือนเดิม เช่น นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาไทยมากเป็นอันดับ 1 ถือว่าเดินทางท่องเที่ยวตลอด แต่กลับใช้จ่ายต่างกันได้เพราะช่วงโลว์ซีซั่น โรงแรม จะลดราคา ร้านอาหารจะถูกลง  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ชงรัฐปรับค่าจ้างไกด์มาตรฐาน

สรรพสามิตจับตาสุราทะลักตะเข็บชายแดน

กรมสรรพสามิต ผนึกตชด.-ทหารสกัดนำเข้าสุรา-ไวน์ประเทศเพื่อนบ้านขายในประเทศ
แหล่งข่าวจากรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมฯได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมศุลกากร ตำรวจตะเวนชายแดน (ตชด.) ทหารตรวจสอบสินค้าที่นำเข้าบริเวณชายแดนอย่างเข้มงวด หลังจากที่ครม.มีมติปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา  เนื่องจากเกรงว่าจะมีการลักลอกนำเข้าสุรา เบียร และไวน์ จากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว  และกัมพูชา จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะราคาสินค้าที่นำเข้ามาถูกกกว่าราคาขายในประเทศ  รวมทั้งเข้าไปตรวสอบสต๊อกสินค้าเก่าของผู้ประกอบการว่ามีมากน้อยแค่ไหน เพื่อป้องกันปรับราคาสูงเกินควร “ปกติการลักลอบสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านมาขายในไทยมีอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นกองทัพมด โดยเชื่อว่าการนำเข้าสินค้าไวน์ เบียร์ สุราเข้ามาไทยจะมีปริมาณไม่มากนัก เพราะราคาขายในไทยสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน 3-4% ยกเว้นว่าในช่วงนั้น จะเป็นเทศกาลปริมาณสินค้ามีไม่เพียงพอกับความต้องการอาจทำให้มีการลักลอกนำเข้ามากขึ้น สำหรับสินค้าสุรา เบียร์ ไวน์ ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุม จึงไม่สามารถดูแลในเรื่องราคาได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริโภค  ส่วนการลักลอบนำเข้าสินค้าที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมายนั้น ต้องถูกลงโทษปรับ 4 เท่าของภาษีสินค้าประเภทนั้น โดยแต่ละประเภทจัดเก็บในอัตราไม่เท่ากัน” ทั้งนี้ที่ผ่านมา ได้ขอความร่วมมือกรมการค้าภายในตรวจสอบสต๊อกสินค้าของผู้ประกอบการ และร้านค้ายี่ปั๊ว ซาปั๊วว่า มีการปรับราคาขายสินค้าทั้งที่เป็นสินค้าที่ค้างสต็อกเก่า หรือใช้แสตมป์เดิมหรือไม่ เพราะกรมฯ ไม่มีราคาอ้างอิงราคาขายปลีก หลังจากปรับโครงสร้างภาษี เนื่องจากถือว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย และเห็นว่าการแข่งขันในตลาดที่รุนแรง จะทำให้ราคาขายไม่ปรับเพิ่มมากนัก ขณะที่ผู้บริโภคต้องศึกษาและเปรียบเทียบราคาขายปลีกของแต่ละยี่ห้อเอง  พร้อมกันนี้ยืนยันว่าผู้ประกอบการจะไม่ได้รับผลกระทบ หรือไม่ขาดทุนจากการดำเนินการปรับโครงสร้างภาษีครั้งนี้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สรรพสามิตจับตาสุราทะลักตะเข็บชายแดน

Page 1527 of 1552:« First« 1524 1525 1526 1527 1528 1529 1530 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file