นายชูเกียรติโอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาส่งออก(เอฟโอบี) ข้าว 5% ของไทยปรับตัวอยู่ในระดับ 427ดอลลาร์สหรัฐต่อตันสูงกว่าราคาข้าวของเวียดนามที่อยู่ในระดับ 410 ดอลลาร์ฯต่อตันและ ข้าวอินเดียที่อยู่ระดับ 425 ดอลลาร์ฯต่อตัน เนื่องจากนโยบายการตรวจสอบสต็อกข้าวในโกดังของโครงการรับจำนำข้าวของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) อย่างเข้มงวด จนผู้ส่งออกต้องไปหาซื้อข้าวในตลาดทั่วไปแทน ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนของไทยแข็งค่าขึ้นจากเดือนก่อนที่ค่าเฉลี่ยอยู่ที่32.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ในระดับ 31.9 บาท ต่อดอลลาร์ฯ ทั้งนี้ผลของราคาข้าวไทยที่ปรับตัวแบบก้าวกระโดดได้ส่งผลให้ผู้ซื้อข้าวในหลายๆประเทศที่จะมีคำสั่งซื้อ(ออเดอร์) ข้าวใหม่เริ่มชะลอออเดอร์ชั่วคราวเพื่อรอดูสถานการณ์ราคาข้าวไทยอีกครั้งทำให้การขายข้าวในช่วงนี้ซบเซาเล็กน้อยแต่ในส่วนของออเดอร์เก่าที่ลูกค้าต่างชาติเคยสั่งมาก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหาอะไรสามารถส่งมอบได้ตามปกติ “ประเด็นหลักๆ ที่ทำให้ราคาข้าว 5% ของไทยสูงกว่าแบบก้าวกระโดดจากราคาต้นเดือนเฉลี่ยที่409-410 ดอลลาร์ฯต่อตัน มาอยู่ระดับ 427 ดอลลาร์ฯ เป็นผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยนมากว่ามาจากเรื่องของสต็อกข้าวซึ่งตรงนี้ผู้ส่งออกก็คงต้องดูสถานการณ์สักระยะหนึ่งก่อนเกี่ยวกับสถานการณ์ของราคาอย่างไรก็ตามแม้ราคาจะสูงแต่ราคาข้าวไทยกับเวียดนามยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกันซึ่งหากราคาข้าวของทั้ง 2 ประเทศไม่ห่างกันมากผู้ส่งออกไม่กังวลมากนัก” นายชูเกียรติกล่าวว่า ขณะนี้ผู้ส่งออกข้าวไทยอยู่ระหว่างการติดตามการประมูลข้าวรอบใหม่ๆจากหลายประเทศเพื่อเข้าร่วมแข่งขันกับคู่แข่งไทย เช่น ในส่วนของอิรักมีการเปิดประมูลต่อเนื่องเดือนละ 40,000 – 50,000 ตัน รวมถึงฟิลิปปินส์ที่กำลังจะมีการเปิดประมูลข้าวรอบใหม่ในระดับหลักแสนตันหลังจากก่อนหน้านี้เวียดนามชนะการประมูลไปและ อินโดนีเซียก็มีแผนที่จะนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น เป็นต้น ส่วนแนวทางในการระบายข้าวนั้นทางผู้ส่งออกก็อยากให้ทาง คสช.อนุญาตให้ระบายข้าวในสต๊อกในส่วนที่มีการตรวจสอบแล้ว โดยโกดังใดที่ตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหาหรือ มีปริมาณข้าวอยู่ครบตามบัญชี และมีคุณภาพดี ก็ควรจะทยอยระบายออกไปบ้างโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ราคาข้าวปรับตัวดีเพราะหากจะรอให้ตรวจสอบครบทุกโกดังก่อนแล้วค่อยระบายพร้อมกันคงไม่ได้คงใช้เวลานานเป็นปีและทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพลงเรื่อยๆ ราคาที่ขายได้ก็จะต่ำลงจนส่งผลให้รัฐเสียโอกาสในการขายข้าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ราคาข้าวขาว 5% ของไทยจะมีราคาแพงกว่าคู่แข่งอย่างเวียดนามและอินเดีย มากในระดับ 120-180 ดอลลาร์ฯต่อตันโดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลมีนโยบายรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาทประกอบกับข้าวไทยมีคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วโลก แต่เมื่อมีราคาแพงส่งผลให้ไทยไม่สามารถที่จะส่งออกไปแข่งขันในตลาดโลกได้เนื่องจากหลายๆประเทศหันไปสั่งซื้อข้าวจากคู่แข่งไทยแทนและเมื่อในช่วงต้นปี 57 รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งข้าวในสต็อกเดือนละ 1ล้านตันเพื่อนำเงินมาจ่ายให้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวส่งผลให้ราคาข้าวไทยปรับลดลงมาจนมีราคาต่ำกว่าข้าวของเวียดนามและอินเดีย
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ราคาข้าวไทยพุ่ง
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs


