นายสุธน บุญประสงค์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.คาดว่าปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) ปีนี้ น่าจะอยู่ในช่วงวันที่ 24-26 เม.ย. ที่ 26,752 ซึ่งอยู่ในช่วงที่แหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช ในอ่าวไทยมีแผนหยุดซ่อมบำรุงท่อก๊าซฯ รวม 18 วัน ระหว่างวันที่ 10-27 เม.ย. ซึ่งจะทำให้ปริมาณก๊าซฯ หายไป 630 ลูกบาศก์ฟุตต่อวัน มั่นใจว่า จะไม่กระทบต่อการผลิตไฟฟ้าของประเทศ เนื่องจากยังมีสำรองไฟฟ้าเหลืออยู่ที่ 4,122 เมกะวัตต์ทั้งนี้ ปริมาณก๊าซฯ หายไปประมาณ 630 ลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้า เนื่องจากเตรียมมาตรการรองรับ สำรองน้ำมันเตา 41ล้านลิตร มาใช้เป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าบางปะกง และโรงไฟฟ้าราชบุรี และตั้งแต่วันที่18เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่เริ่มทำงานตามปกติหลังจากหยุดยาว ทางบมจ. ปตท.ได้เตรียมก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) มาเสริมจำนวน400ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งทำให้ยังมีก๊าซฯที่หายไปเพียง 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันเท่านั้นนายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ได้เตรียมแผนรับมือแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช ในอ่าวไทยมีแผนหยุดซ่อมบำรุงท่อก๊าซฯ รวม 18 วัน ระหว่างวันที่ 10-27 เม.ย. นี้ไว้แล้ว โดยสั่งการให้ปตท.และกฟผ. บริหารจัดการเชื้อเพลิงที่จะนำมาใช้ทดแทนให้เพียงพอ ซึ่งปริมาณก๊าซฯที่หายไปมีจำนวนไม่มากและสามารถดึงไฟฟ้าจากส่วนกลางมาเสริมสร้างความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าได้“การปิดซ่อมของแหล่งบงกช ฯ จะไม่กระทบต่อการผลิตไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซฯ และการให้บริการปั๊มเอ็นจีวีฝั่งตะวันออกแน่นอน เนื่องจากได้เตรียมพร้อมในการสำรองเชื้อเพลิงทดแทนไว้หมดแล้ว และเป็นช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ปริมาณการใช้ไฟฟ้าจะลดลง”นายชาครีย์ บูรณกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. กล่าวว่า ปตท. ได้เตรียมการเรียกก๊าซธรรมชาติจากฝั่งตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามความต้องการใช้ก๊าซฯ จริง รวมทั้งจัดหาเชื้อเพลิงสำรอง ประกอบด้วย น้ำมันเตาปริมาณ 130 ล้านลิตร และพร้อมเพิ่มการจ่ายแอลเอ็นจีเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน ซึ่งตามปกติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าจะลดลง และการหยุดจ่ายก๊าซฯ จากแหล่งก๊าซฯ บงกช ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการให้บริการเอ็นจีวี

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กฟผ.คาด 24-26 เม.ย. ใช้ไฟพีค

Posts related