เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากหากจะบอกว่า…ในอนาคตกรุงเทพฯ จะกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวการเงิน และการผลิตในภูมิภาค ปัจจุบันในแต่ละปีหากพูดถึงคนทั้งโลกจะมีการเดินทางสูงกว่า 1 พันล้านคนและในจำนวนนี้เดินทางมาอาเซียนถึง 72 ล้านคน โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเกือบ 30 ล้านคน ในขณะที่ความสามารถของสนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับผู้โดยสารที่เข้า–ออก สนามบินได้ถึง 50 ล้านคนต่อปีฉะนั้นหากสามารถขยายขนาดสนามบินเพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มได้อีกประเทศไทยก็จะมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมในภูมิภาคนี้ ฉะนั้นประเทศไทยจึงเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของอาเซียน ส่วนด้านการผลิตวันนี้ประเทศไทยไม่มีปัญหาเลยหากคนไทยทำการผลิตเพื่อส่งออก เพราะมีความสามารถรองรับของระบบสาธารณูปโภคได้อย่างเต็มที่เนื่องจากเรามีท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ถึง 2 แห่งได้แก่ ท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือมาบตาพุด การเงิน การลงทุน การธนาคาร ถือว่ากรุงเทพฯ สามารถที่จะขยายตัวเป็นศูนย์ กลางการเงินการธนาคารในภูมิภาคนี้ได้แม้ว่าวันนี้สิงคโปร์ถือเป็นศูนย์กลางการเงินการธนาคารของภูมิภาคแต่อีกไม่นานหากแบงก์ชาติสามารถแก้กฎเกณฑ์ในเรื่องการควบคุมเงินตราต่างประเทศได้ประเทศไทยก็จะกลายเป็นศูนย์กลางการเงินการธนาคารได้อย่างแน่นอน ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าขนาดของตลาดหลักทรัพย์ของไทยนั้นมีขนาดของการซื้อขายต่อวันใหญ่ที่สุดในอาเซียนมาเกือบ 2 ปีแล้วและกำลังขยายเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านเรา ตลาดเงินตลาดทุนของเรามีความเสรีเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อ 10 ปี ก่อนเฉลี่ยในตลาดหลักทรัพย์ขายต่อปีละประมาณ  1.5 ล้านล้านบาทมาเป็นประมาณกว่า 8 ล้านล้านบาทต่อปีในปี ค.ศ. 2011 นั่นแสดงว่ามีการขยายตัวอย่างมากจะเห็นได้ว่าการที่ตลาดหลักทรัพย์สามารถขยายตัวได้เท่ากับสัดส่วนของจีดีพีไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ประเทศไทยวันนี้ยังมีความได้เปรียบในเรื่องของทำเลการพัฒนา การขยายทุนของนักลงทุนต่างประเทศทำให้นักลงทุนเอาเงินมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั่นคือกรุงเทพฯ มีโอกาสที่จะกลายเป็นศูนย์กลางการเงินการผลิต และก็การท่องเที่ยวนั่นเอง… วิกรม กรมดิษฐ์

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กรุงเทพฯ จะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การเงิน และการผลิตในภูมิภาค – มองโลกแบบวิกรม

Posts related