นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.มีแผนเพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูลและเพิ่มช่องทางการลงทุนของนักลงทุนให้มากขึ้น โดยได้เชิญบริษัทไปรษณีย์ไทย และบริษัทที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีก ทั้งร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น และเทสโก้ โลตัส รวมถึงธนาคารออมสิน ซึ่งมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศมาหารือ เพื่อเป็นช่องทางในการขายกองทุนต่าง ๆ ให้นักลงทุนเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งบริษัทดังกล่าวก็สนใจเพราะจะช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัทอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ ในปี 57 ก.ล.ต.ประเมินว่าจะมีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยและตลาดตราสารหนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรืออาจทะลุ 100,000 ราย จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีนักลงทุนหน้าใหม่ตามเป้าหมายที่ 80,000-90,000 ราย เนื่องจากก.ล.ต.มีแผนให้ความรู้ความเข้าใจกับนักลงทุนต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นทางเลือกให้นักลงทุน เช่น หุ้นที่เข้าจดทะเบียนใหม่ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ ยังมีกองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือกองรีทส์ ที่ล่าสุดกรมสรรพากรได้อนุมัติเรื่องภาษี แล้ว โดยจะเริ่มจัดตั้งกองทุนได้ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งมั่นใจว่าจะมีผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากมีข้อดีมากกว่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ เพราะสามารถระดมเงินทุนเองได้ และเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถือหุ้นได้สูงถึง 50% ในขณะที่กองทุนอสังหาฯเปิดให้ถือได้สูงสุดแค่ 1ใน 3 ทำให้เจ้าของกิจการน่าจะมีความต้องการออกกองทุนมากขึ้น เป็นผลจากยังมีความเป็นเจ้าของอยู่ โดยขณะนี้มีผู้ยื่นตั้งกองรีทส์แล้ว 1 รายคือ บริษัทลูกของบีแลนด์ “ในเดือนธ.ค.นี้ ก.ล.ต.เตรียมเปิดโครงการหุ้นใหม่ความภูมิใจของจังหวัดครั้งที่ 3 เพื่อส่งเสริมให้บริษัทเอกชนในต่างจังหวัดเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น หลังโครงการที่ 1 และโครงการที่ 2 ประสบความสำเร็จอย่างดี โดยมีบริษัทที่เข้าตลาดและมีแผนที่จะเข้าตลาดแล้วกว่า 20% ของจำนวนบริษัทที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 119 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทที่เข้าตลาดฯ แล้ว 12 บริษัท และบริษัทที่ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)แล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาของก.ล.ต.อีกไม่น้อยกว่า 6-7 บริษัท”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กลต.จีบไปรษณีย์-ค้าปลีก ขายกองทุน

Posts related